สำหรับใครหลายคนที่เคยเล่นเกม Final Fantasy 7: Remake แบบเป็นสายเสพเนื้อเรื่อง ก็น่าจะรู้กันว่าเกมภาคนี้แอบมีส่วนที่ 'พล็อตโฮล' โดยเฉพาะการที่ตัวละครสาว Aerith เพิ่งได้เจอกับ Cloud ครั้งแรก แต่ก็เรียกเขาไปทันทีเลยว่า 'ทหารรับจ้าง' ซึ่งถึงแม้ Aerith จะบอกว่าเดาจากดาบ Buster Sword ของ Cloud แต่มันก็ดูไม่น่าใช่จากการเดาอยู่ดี หรือในตอน Chapter 12 ที่ Tifa จะขอให้ Aerith ไปช่วย Marlene แต่ Aerith ก็ดันรู้ก่อน Tifa จะอธิบายจบล่าสุดนี้ทางสื่อ IGN ได้รายงานว่่า Square Enix ฝั่งญี่ปุ่น JP ออกมาเผยบน Twitter แล้วว่าที่ Aerith เป็นแบบนี้ก็เพราะ 'เธอนั้นมีความทรงจำจากอนาคต' โดยสรุปได้ดังนี้Aerith เธอนั้นมีความทรงจำจากอนาคต เพราะเธอได้ความทรงจำนี้จาก "ตัวตนในอนาคตที่อยู่อีกมิติหนึ่ง"แต่ Aerith นั้นก็มีความทรงจำแบบคลุมเครือ และเรียก Cloud ไปแบบนั้นโดยไม่ได้ตั้งใจ อารมณ์เหมือนเรียกไปตามใต้จิตสำนึก โดยที่ Aerith เป็นแบบนี้ก็เพราะฝีมือ The Whispers ผู้ที่คอยทำให้เรื่องราวต่างๆ ในเกม Final Fantasy 7 ไม่เปลี่ยนแปลงจากชะตากรรมThe Whispers ได้ใช้วิธีดูดเอาความทรงจำจากอนาคตของ Aerith ไปทีละน้อยในทุกครั้งที่สัมผัสเธอ เพื่อให้ Aerith จะไม่เอาความทรงจำนี้มาเปลี่ยนแปลงเหตุการณ์ตามชะตากรรมนั่นเองทั้งหมดนี้ จึงเป็นส่วนที่บ่งบอกว่า 2 เหตุการณ์ดังกล่าวไม่ใช่พล็อตโฮลนะ!!! เกม Final Fantasy 7: Remake กำลังจะมีภาคต่อในชื่อ Final Fantasy 7: Rebirth วางขายในช่วงต้นปี 2024 บน PS5 ใครสนใจก็รอเล่นกันได้เลย                                                                                                                        เครดิต : ign..............................พบเกม PC ลดราคาแรงตลอดปีที่ร้าน 2gameซื้อผ่านลิงก์ https://2game.com?ref=gamefeverth และใส่รหัสคูปอง Gamefever เพื่อรับส่วนลดเพิ่ม!

จนถึงตอนนี้ก็เป็นที่รู้โดยกันไปแล้วว่า Final Fantasy 7 Remake ไม่ได้ถูกสร้างออกมาอย่างที่แฟนๆ เกมคิดเอาไว้ ในขณะที่ตัวเกมได้สร้างการเปิดตัวเมือง Midgar ขึ้นมาใหม่อีกครั้ง ตามต้นฉบับสุดคลาสสิกจากปี 1997 แต่มันก็เป็นการนำเสนอเรื่องราวที่ดำเนินไปในทิศทางซึ่งต่างจากเดิมโดยสิ้นเชิง ทำให้ใครหลายคนมุ่งความสนใจไปยัง Part 2 ของภาค Remake นี้ รวมไปถึงแนวทางต่อไปของมันในอนาคตหลังจากการหาข้อมูลเพิ่มเติมคร่าวๆ แล้ว ก็ทำให้เราพอจะบอกได้ว่าเนื้อหาหลังจากนี้ จะเป็นอย่างไรหลังการเปิดตัว รวมถึง DLC Episode INTERmission ที่จะมี Yuffie ซึ่งเป็นหนึ่งในตัวละครที่ผู้เล่นจะสามารถเลือกเล่นได้ใน Final Fantasy 7 ภาคดั้งเดิม แต่ทำไมต้องเป็นเธอ แทนที่จะเป็นแวมไพร์อย่าง Vincent กันล่ะ?ซึ่งจากการพูดคุยระหว่าง TheGamer กับผู้กำกับร่วมอย่าง Motomu Toriyama เขาก็ได้กล่าวถึงบทบาทของ Yuffie ใน DLC ว่า เราจะสามารถเล่าและเปิดโอกาสให้แฟนเกม ได้เรียนรู้เรื่องราวเบื้องลึกของตัวละครนี้ได้มากขึ้น ได้รู้จักกับตัวละครใหม่ๆ มากขึ้น จากบทบาทก่อนหน้านี้ของเธอ ที่เป็นเพียงตัวเสริมที่ผู้เล่นจะสามารถเลือกได้เท่านั้น และเหตุผลที่เขาเลือกเธอแทนที่จะเป็น Vincent ทาง Toriyama ก็ให้คำตอบง่ายๆ ว่า บทของพ่อแวมไพร์คนนี้อยู่ในส่วนของ Midgar แล้ว เป็นการแสดงให้เห็นว่าแม้จักรวาลของภาค Remake จะแตกต่างออกไปจากเดิม แต่บางส่วนพวกเขาก็ยังอยากที่จะอนุรักษ์บางส่วนของภาคคลาสสิกเอาไว้“เราไม่ได้รับประกันว่า Yuffie ตัวเอกใน DLC Episode INTERmission นี้จะเข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของทีมตัวเอกในตัวเกมหลัก แต่เพราะแบบนั้นก็ทำให้เธอซึ่งเป็นนักล่า Materia เป็นตัวละครที่ทำให้เรามีอิสระมากขึ้นในการขยายเรื่องราวเบื้องลึกเบื้องหลังของเธอออกไปอีก เมื่อเทียบกับ Vincent ที่หลับใหลอยู่ในโลงศพที่คฤหาสน์ Shinra และไม่สามารถไปไหนมาไหนได้ ซึ่งในการเดินทางภายใน DLC นี้เราก็จะได้ทำความรู้จักกับ Yuffie มากขึ้น และก็จะเชื่อมโยงไปสู่เรื่องราวของเธอต่อไป”Final Fantasy 7 Remake Intergrade และ Episode INTERmission พร้อมให้เล่นแล้วบน PlayStation 5 และ Final Fantasy Remake พร้อมให้เล่นบน PlayStation 4 แล้วเช่นกันCredit: GamingBolt

ตามภาคหลักไปสำหรับ Final Fantasy 7 Remake Intergrade ที่ล่าสุดมีการประกาศออกมาว่าจะ Exclusive บน PS5 เป็นเวลา 6 เดือน โดยที่ยังไม่รู้ว่าหลังจากหมดช่วงเวลาดังกล่าวแล้ว เกมจะลงให้กับ PS4. Xbox หรือ PC ด้วยหรือไม่แม้จะผ่านมามากกว่า 1 ปี แล้ว แต่ Final Fantasy 7 Remake ก็ยังไม่ได้ลงให้กับ PC แต่ไปลงให้กับ PS5 แทน ซึ่งคิดว่า Intergrade น่าจะเป็นแบบเดียวกันแต่เป็นลงให้ PS4 แทน แม้ว่าจะยังไม่มีประกาศจากผู้พัฒนา แต่ก็หวังว่าเราจะมีโอกาสได้เล่นเกมนี้บน PC เช่นกัน<iframe width='560' height='315' src='https://www.youtube.com/embed/YsXnDKAv_h8' title='YouTube video player' frameborder='0' allow='accelerometer; autoplay; clipboard-write; encrypted-media; gyroscope; picture-in-picture' allowfullscreen></iframe>Credit : https://gamingbolt.com/final-fantasy-7-remake-intergrade-will-be-exclusive-to-ps5-for-at-least-6-months

นับเป็นเรื่องน่ายินดีสำหรับแฟนๆ Final Fantasy 7 Remake ที่ Sqaure Enix ได้มีการเอาตัวเกมไปลงให้กับเครื่อง PS5 และเพิ่มเนื้อเรื่องเสริมใหม่ของ Yuffie เข้ามา การพอร์ตเกมไปลงให้กับเครื่องรุ่นใหม่ที่มีศักยภาพมากกว่าย่อมหมายถึง ภาพที่สวย และ FPS ที่ลื่นขึ้นครับSquare Enix ได้ปล่อยวิดีโอตัวใหม่เปรียบเทียบกราฟิก และเกมเพลย์ให้เราได้ชมกันวันนี้ ซึ่งจุดแรกเลยที่สามารถสังเกตได้คือความละเอียดของ Texture ที่มากขึ้น ต่อมาคือ FPS ที่เป็นแบบ 60+ ทำให้จังหวะการเคลื่อนไหวดูดีขึ้นเป็นอย่างมาก ต่อมาคือระบบแสงที่มีความสมจริงขึ้น สุดท้ายคือเรื่องของความละเอียดที่เป็นแบบ 4KFinal Fantasy 7 Remake Intergrade จะวางขายในวันที่ 10 มิถุนายน 2021 บน PS5 เท่านั้นในราคา $70 สำหรับคนที่มีเกมเวอร์ชั่น PS4 อยู่แล้ว สามารถอัพเกรดได้ฟรีในวันเดียวกันครับ<iframe width='560' height='315' src='https://www.youtube.com/embed/YVyic4U88TA' title='YouTube video player' frameborder='0' allow='accelerometer; autoplay; clipboard-write; encrypted-media; gyroscope; picture-in-picture' allowfullscreen></iframe>Credit:  https://gamingbolt.com/final-fantasy-7-remake-intergrade-extended-ps5-features-trailer-shows-more-technical-improvements

สำหรับเพื่อนๆ ที่กำลังกระหายข้อมูลเกี่ยวกับ DLC ตัวใหม่ของ Final Fantasy 7 Remake Intergrade วันนี้ผมมีข้อมูลน่าสนใจมาฝากครับ อย่างแรกคือ DLC นี้จะมาพร้อมกับมนต์อสูรและ Materia ใหม่ แต่จุดที่น่าเสียดายคือเราจะควบคุมได้แค่ Yuffie เท่านั้น!แต่ไม่ต้องเสียใจไปเพราะในการต่อสู้ผู้เล่นสามารถกด L2 เพื่อใช้ท่าโจมตีประสานกับ Sonon ได้เหมือนที่เราให้ในตัวอย่าง จากบทสัมภาษณ์กับ Tetsuya Nomura โดย Famitsu ทาง Square Enix ไม่มีแผนจะปล่อย DLC ตัวไหนออกมาเพิ่มเติมแล้วหลังจากนี้ เนื่องจากต้องการโฟกัสไปที่ Part 2 ของเกม แต่หลังจาก Part 2 วางขายแล้ว อาจจะมี DLC ตัวอื่นตามมาTetsuya Nomura ยังยืนยันด้วยอีกว่าในปีหลังจากนี้ และปีต่อๆ ไป จะมีการประกาศเปิดตัว Final Fantasy ภาคใหม่เรื่อยๆ ดังนั้นขอให้ทุกคนเข้าใจว่า Final Fantasy 7 Remake เป็นแค่จุดเริ่มต้นของตำนานบทใหม่เท่านั้นNew interview with Tetsuya Nomura- Episode Yuffie has new summons and Materia- Only Yuffie is playable- You can fight together with Sonon during combat (pressing L2) as seen in the trailer- No further DLC planned; focus in part 2 for nowhttps://t.co/IUz4w7ydKb pic.twitter.com/MHzy0UjYCX— Nibel (@Nibellion) March 17, 2021Credit:   https://gamingbolt.com/final-fantasy-7-remake-intergrade-yuffie-episode-features-new-summons-materia

ยังคงโหนกระแสอย่างต่อเนื่องครับ สำหรับการกลับมาของ Final Fantasy 7 Remake บนเครื่อง PS5 ที่มีการเพิ่มเนื้อเรื่องเสริมในส่วนของ Yuffie เข้ามาด้วย เชื่อว่าตั้งแต่มีการเปิดตัวน่าจะมีหลายคนสงสัยว่า "แล้วส่วนเสริมใหม่นี้จะมีความยาว หรือใช้เวลาเล่นขนาดไหน?" วันนี้ รายงานใหม่ได้เผยว่าเนื้อเรื่องส่วนเสริมจะมีความยาว 2 บทครับ น่าเสียดายที่ไม่มีการเปิดเผยว่า 2 บทดังกล่าว จำเป็นต้องใช้เวลาเล่นทั้งหมดกี่ชั่วโมง แต่เราได้ทราบแทนว่า Yuffie จะเป็นตัวละครที่สามารถต่อสู้ได้ทั้งแบบประชิด ระยะกลาง และไกล ด้วยชูริเคนยักษ์ของเธอ กับคาถานินจาของเธอ นอกจากนี้ Yuffie ยังมีความสามารถในการเคลื่อนที่นอกการต่อสู้ที่มากกว่าตัวละครในเกมหลักเช่นการ ปีนกำแพง หรือขว้างชูริเคนเพื่อสับสวิตซ์ Final Fantasy 7 Remake Intergrade จะลงให้กับ PS5 เท่านั้น โดยจะมาในช่วงกลางปีนี้ Credit: https://gamingbolt.com/final-fantasy-7-remake-episode-yuffie-will-consist-of-two-chapters

กลางปีนี้เหล่าเกมเมอร์จะได้กลับไปเล่น Final Fantasy 7 Remake กันอีกครั้ง พร้อมกับสนุกไปกับส่วนเสริม Intergrade ที่เพิ่มเนื้อเรื่องของ Yuffie เข้ามา โดยเวอร์ชันนี้จะลงให้กับเครื่อง PS5 เท่านั้น ซึ่งมาพร้อมกับการอัพเกรดภาพ / กราฟิก ให้มีความสวยงามมากขึ้น โดยในวันนี้ทาง Square Enix ได้มีการปล่อยภาพชุดใหม่ ที่โชว์ให้เห็นความสวยงามของกราฟิก ซึ่งเอาจริงๆ ตัวเกม Original ก็เรียกได้ว่ามีภาพที่สวยมากๆ แล้ว แต่ในเวอร์ชันนี้คือเรียกได้ว่ามีความสวยงามของแสง, เงา และรายละเอียดของฉากที่สวยยิ่งขึ้นไปอีก สามารถดูรูปชุดดังกล่าวได้ข้างล่างนี้ Final Fantasy 7 Remake Intergrade จะวางขายในวันที่ 10 มิถุนายน 2021 นี้บนเครื่อง PS5 เท่านั้น Credit : https://gamingbolt.com/final-fantasy-7-remake-intergrade-gets-new-screenshots-including-yuffie-episode

เดือน กุมภาพันธ์ ได้จบลงแล้ว และมันหมายความว่าสมาชิก PS Plus จะสามารถรับเกมฟรีมาเล่นกันได้อีกครั้ง ซึ่งสำหรับรายชื่อเกมฟรีเดือนนี้ เชื่อว่าถูกใจคนที่ชอบเล่นเกม RPG อย่างแน่นอน เพราะเป็น Final Fantasy 7 Remake, Maquette, Remnant from the Ashes, Farpoint VR ที่เปิดให้รับได้ฟรีในเดือนนี้ครับ ถือได้ว่าเป็นข่าวดีมากเลยจริงๆ เนื่องจากเรากำลังจะได้เล่นส่วนเสริมตัวใหม่ของ Final Fantasy 7 Remake ที่เป็นเรื่องราวของ Yuffie ที่เพิ่งประกาศเปิดตัวออกมาก่อนหน้านี้ มันจึงเป็นการดีสำหรับคนที่ยังไม่ได้เล่นภาคนี้ ที่จะได้เข้าไปสัมผัสก่อน เพื่อรอเล่นการมาของส่วนเสริมใหม่ครับ สำหรับเกมอื่นๆ เองก็น่าสนใจไม่แพ้กัน โดยเฉพาะ Remnant from the Ashes ที่เรียกได้ว่าเป็นเกมอีกหนึ่งเกม Action เหมาะสำหรับคนที่ชอบสู้กับปีศาจด้วยอาวุธปืน ส่วน Maquette เป็นเกมแนวแก้ Puzzle ที่โยนเราลงไปในโลกที่ทุกอย่างดูเล็กไปหมด Coming to PS Plus in March - Final Fantasy VII Remake - Maquette - Remnant from the Ashes - Farpoint VR via https://t.co/lR29C9MRim pic.twitter.com/LEb3aHcyXI — Nibel (@Nibellion) February 26, 2021 Credit: https://gamingbolt.com/final-fantasy-7-remake-maquette-free-with-playstation-plus-in-march

หลังจากประกาศเปิดตัวไปในช่วงปลายปีที่ผ่านมา เหล่าเกมเมอร์ทั่วโลกก็ได้รู้ถึงการมีอยู่ของเกม Final Fantasy 16 และภาคนี้จะใช้ระบบต่อสู้แบบ Action จัดเต็มเช่นเดียวกับ Final Fantasy 7 Remake ที่วางจำหน่ายเมื่อช่วงต้นปี 2020 ซึ่งสำหรับใครที่ไม่ถนัดเกมเพลย์แบบนี้ ผู้พัฒนาเขาก็มีการใส่ระบบที่จะช่วยให้ต่อสู้ได้ง่ายขึ้นเข้ามาด้วยครับ! โปรดิวเซอร์ของเกมคุณ Naoki Yoshida ได้ยืนยันผ่าน Broadcast ว่า Final Fantasy 16 จะใช้ระบบต่อสู้แบบ Action จัดเต็ม ซึ่งตอนนี้ทางทีมพัฒนากำลังพัฒนาระบบที่จะช่วยให้คนที่เล่นเกมแนวนี้ไม่เก่งสามารถสนุกไปกับ ตัวเกมภาคใหม่นี้ได้ด้วยเช่นกันอยู่ ยังไม่มีการเปิดเผยว่าระบบดังกล่าวทำงานยังไง แต่อะไรแบบนี้เคยเกิดขึ้นมาแล้วใน Final Fantasy 7 Remake ที่มีระบบซึ่งตัวละครของเราจะออกท่าโจมตีเอง และสิ่งที่ผู้เล่นต้องทำก็คือการดูเกจ ATB ของตัวเอง หรือหาจังหวะร่ายเวทมนตร์ ไม่ก็โยนไอเทมเท่านั้น โดยคิดว่าในภาคใหม่นี้เองก็น่าจะเป็นระบบที่คล้ายๆๆ กันครับ Yoshida briefly discussed FF16 on a radio broadcast he was invited to primarily to discuss FF14. He said that FF16 is "action-oriented" and that theyre putting effort into supporting players who are less-skilled at action games -- also that theyre working hard on the story. https://t.co/G3C2jmm3Rr — active time boop (@TonyGarsow) February 22, 2021 Credit: https://gamingbolt.com/final-fantasy-16-is-action...

แน่นอนว่าเมื่อพูดถึงเกม Final Fantasy VII Remake นั้น สิ่งที่หลายคนน่าจะสนใจมากที่สุดคงหนีไม่พ้นภาคต่อหรือ Part 2 ของเกมที่มีข่าวแว่วๆ ว่าอาจจะได้เปิดตัวให้เห็นกันเร็วๆ นี้ แต่จากข่าวลือล่าสุด ดูเหมือนว่าผู้พัฒนา Square Enix จะยังไม่วางมือจากเกมภาคแรกซะทีเดียว และอาจจะมีการเพิ่มส่วนเสริมเนื้อเรื่องใหม่เข้าไปในเกมสำหรับเวอร์ชั่น PS5 และ PC ด้วย! สำหรับข่าวชือดังกล่าวได้ถูกเปิดเผยโดยผู้ใช้เว็บบอร์ด Resetera ที่ใช้ชื่อว่า Navtra โดยเขากล่าวว่าเกม FF7R เวอร์ชั่น PC และ PS5 จะไม่ได้เป็นเพียงแค่การพอร์ตเกมและเพิ่มความคมชัดแต่เพียงอย่างเดียว แต่เกมจะมีเนื้อเรื่องเสริมมามากกว่าที่เห็นในเวอร์ชั่น PS4 อีกด้วย ทั้งนี้ คุณ Navtra ก็ยอมรับว่าข้อมูลที่เขาได้ทราบมาอาจจะเป็นข้อมูลเก่าไปแล้ว เพราะเดิมเกมเวอร์ชั่น PC/PS5 (ยังไม่มีข่าวเวอร์ชั่น Xbox) เคยมีกำหนดเปิดตัวในงาน Future of Gaming ของ Sony เมื่อช่วงกลางปี 2020 ที่ผ่านมาพร้อมกับเกม Project Athia และ Final Fantasy XVI แต่แผนการดังกล่าวกลับถูกยกเลิกไป และแม้ว่าเกมทั้งสองจะได้รับการเปิดตัวไปในงานอื่นๆ ในภายหลัง แต่ FF7R เวอร์ชั่นปรับปรุงนี้กลับเงียบหายไปเฉยๆ เขาจึงยังไม่รู้ว่าข้อมูลที่เขาได้รับมาจะยังถูกต้องแค่ไหน แต่เขาก็เชื่อว่าเวอร์ชั่นปรับปรุงที่ว่านี้ยังไม่ได้ถูกยกเลิกไปอย่างแน่นอน ประเด็นที่น่าสนใจอีกอย่างคือเกม FF7R จะหมดสัญญา Exclusive กับ Sony ในเดือนเมษายน 2021 นี้ เป็นไปได้ว่า Square Enix อาจจะรอให้สัญญาดังกล่าวหมดไปซะก่อนจึงจะประกาศเกมเวอร์ชั่นปรับปรุงนี้ คงต้องรอดูกันต่อไปจ้า! Credit: GamingBolt

แน่นอนว่าเมื่อพูดถึงเกม Final Fantasy VII Remake นั้น สิ่งที่หลายคนน่าจะสนใจมากที่สุดคงหนีไม่พ้นภาคต่อหรือ Part 2 ของเกมที่มีข่าวแว่วๆ ว่าอาจจะได้เปิดตัวให้เห็นกันเร็วๆ นี้ แต่จากข่าวลือล่าสุด ดูเหมือนว่าผู้พัฒนา Square Enix จะยังไม่วางมือจากเกมภาคแรกซะทีเดียว และอาจจะมีการเพิ่มส่วนเสริมเนื้อเรื่องใหม่เข้าไปในเกมสำหรับเวอร์ชั่น PS5 และ PC ด้วย! สำหรับข่าวชือดังกล่าวได้ถูกเปิดเผยโดยผู้ใช้เว็บบอร์ด Resetera ที่ใช้ชื่อว่า Navtra โดยเขากล่าวว่าเกม FF7R เวอร์ชั่น PC และ PS5 จะไม่ได้เป็นเพียงแค่การพอร์ตเกมและเพิ่มความคมชัดแต่เพียงอย่างเดียว แต่เกมจะมีเนื้อเรื่องเสริมมามากกว่าที่เห็นในเวอร์ชั่น PS4 อีกด้วย ทั้งนี้ คุณ Navtra ก็ยอมรับว่าข้อมูลที่เขาได้ทราบมาอาจจะเป็นข้อมูลเก่าไปแล้ว เพราะเดิมเกมเวอร์ชั่น PC/PS5 (ยังไม่มีข่าวเวอร์ชั่น Xbox) เคยมีกำหนดเปิดตัวในงาน Future of Gaming ของ Sony เมื่อช่วงกลางปี 2020 ที่ผ่านมาพร้อมกับเกม Project Athia และ Final Fantasy XVI แต่แผนการดังกล่าวกลับถูกยกเลิกไป และแม้ว่าเกมทั้งสองจะได้รับการเปิดตัวไปในงานอื่นๆ ในภายหลัง แต่ FF7R เวอร์ชั่นปรับปรุงนี้กลับเงียบหายไปเฉยๆ เขาจึงยังไม่รู้ว่าข้อมูลที่เขาได้รับมาจะยังถูกต้องแค่ไหน แต่เขาก็เชื่อว่าเวอร์ชั่นปรับปรุงที่ว่านี้ยังไม่ได้ถูกยกเลิกไปอย่างแน่นอน ประเด็นที่น่าสนใจอีกอย่างคือเกม FF7R จะหมดสัญญา Exclusive กับ Sony ในเดือนเมษายน 2021 นี้ เป็นไปได้ว่า Square Enix อาจจะรอให้สัญญาดังกล่าวหมดไปซะก่อนจึงจะประกาศเกมเวอร์ชั่นปรับปรุงนี้ คงต้องรอดูกันต่อไปจ้า! Credit: GamingBolt

หากนึกย้อนกลับไปช่วงต้นๆ เดือนมกราคมที่ผ่านมา Square Enix ได้สร้างกระแสเล็กๆ ในวงการเกมด้วยการจดสิทธิบัตรใหม่หลายฉบับในญี่ปุ่น ประกอบไปด้วย "Ever Crisis" และ "The First Soldier" ที่ดูจะบ่งชี้ถึง "อะไรซักอย่าง" เกี่ยวกับเกม Final Fantasy 7 โดยสิทธิบัตรดังกล่าวยังได้ถูกนำไปจดทะเบียนในแคนาดา, ยุโรป, และออสเตรเลียด้วยในเวลาไล่เลี่ยกัน ล่าสุด สิทธิบัตรดังกล่าวได้ถูกจดทะเบียนในสหรัฐอเมรีกาเรียบร้อยแล้วตั้งแต่วันที่ 4 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา โดยระบุชัดเจนว่าเป็นสิทธิบัตรที่เกี่ยวข้องกับสินค้าประเภท "เกม" อีกด้วย ทั้งนี้ ยังไม่มีข้อมูลที่แน่ชัดจากทาง Square Enix ว่าสิทธิบัตรดังกล่าวจะเกี่ยวกับอะไรกันแน่ แต่สื่อมวลชนหลายสำนักก็ได้คาดเดากันไปว่าน่าจะเกี่ยวข้องกับ Final Fantasy 7 อย่างแน่นอน ทั้งจากคำว่า "Crisis" ที่มักถูกใช้ตั้งชื่อเกมในจักรวาลของ FF7 มาแล้วมากกว่าหนึ่งเกม เช่นเกม Crisis Core บนเครื่อง PSP และเกม Before Crisis: Final Fantasy VII ที่วางจำหน่ายบนแพลตฟอร์มมือถือในญี่ปุ่น และติดตามตัวละครจากกลุ่ม Turks อย่าง Tseng, Reno, และ Rude อีกด้วย ยิ่งไปกว่านั้น ชื่อสิทธิบัตร "The First Soldier" ทำให้เชื่อได้ว่าตัวละคร Sephiroth อาจจะมีส่วนเกี่ยวข้องบางอย่างด้วย ในฐานะ "ทหาร SOLDIER คนแรก" ของบริษัทชินระตามเนื้อเรื่องของเกมนั่นเอง สิ่งที่น่าสนใจอีกอย่างเกม Final Fantasy 7 Remake จะหมดช่วงเวลา Exclusive สำหรับแพลตฟอร์ม PlayStation ในเดือนเมษายนที่จะถึงนี้ ถ้าจะมีการเปิดตัวหรือประกาศอะไรก็เดาได้ว่าอาจจะเกิดขึ้นในช่วงเดียวกัน รอดูกันได้เลย! Credit: Siliconera

Square Enix มีแผนจะที่จัด Final Fantasy 7 Remake Orchestra World Tour ในประเทศญี่ปุ่นวันเสาร์นี้ ซึ่งสิ่งที่น่าสนใจก็คือ คุณ Motomu Toriyama ที่เป็นหนึ่งในหัวหน้าทีมพัฒนาได้ออกมาบอกว่า "ภายในคอนเสิร์ตจะมีช่วงของการประกาศเปิดตัวด้วย โดยจะมีการเปิดตัวบางอย่างที่เกี่ยวข้องกับ Final Fantasy 7 Remake" ในจุดนี้มีความเป็นไปได้ 3 อย่างด้วยกัน เรื่องแรกคือการประกาศว่าตัวเกมจะไปลงให้กับ PS5 และ PC ด้วย (คิดว่ายังไงก็น่าจะมาแน่ๆ ) ส่วนสองคือการประกาศเปิดตัวโปรเจกต์ Ever Crisis และ The First Soldier ที่เพิ่งจดสิทธิบัตรไปก่อนหน้านี้ สุดท้ายคือความเป็นไปได้ที่จะเปิดตัว Final Fantasy 7 Remake Part 2 ด้วยเช่นกัน ซึ่งโดยส่วนตัวแล้วผมคิดว่าน่าจะเป็นอย่างแรกมากกว่า แต่ก็คงต้องรอดูกันต่อไป Final Fantasy 7 Remake วางจำหน่ายแล้ววันนี้บนเครื่อง PS4 เท่านั้น FF7R Co-Director Toriyamas message about the upcoming FF7R Orchestra Concert is VERY interesting. He mentions there will be a special small section of the concert where he will talk about some info about FF7R revealed only during the concert ? Heres the subs for the video! pic.twitter.com/YAZJAUufrK — ☆オードリーAudrey☆ (@aitaikimochi) February 8, 2021 Credit: GamingBolt

2020 ถือเป็นปีที่ยอดเยี่ยม และผิดพลาดในเวลาเดียวกันของ Square Enix โดยพระเอกในปีที่ผ่านมาคงจะเป็นใครไปไม่ได้เล่นนอกจาก Final Fantasy 7 Remake ที่ตอบรับความต้องการของแฟนๆ ได้อย่างยอดเยี่ยม และทำยอดขายได้อย่างน่าเหลือเชื่อ น่าเสียดายที่ไม่ใช้กับ Marvel’s Avengers ที่ดูจะไม่เป็นไปตามที่คิดช่วง Q2 กับ Q3 ของปี แต่ถึงอย่างนั้นบริษัทก็ยังมียอดขายสุทธิเพิ่มขึ้นถึง 33.7% อยู่ดีเมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า แม้ว่าจะมียอดขายที่เพิ่มสูงขึ้นถึง 33.7% แต่ทางฝั่งกำไรที่ทำได้ในปีนี้ยังคงน้อยกว่าของปีก่อนหน้าอยู่ 4.7% (ปีงบประมาณของ Square Enix จะจบลงที่เดือน 3 ของแต่ละปี ดังนั้นรายงานนี้จึงยังไม่ใช่ผลประกอบการทั้งปีของบริษัทครับ) อย่างไรก็ตามทางบริษัทคาดว่าพวกเขาจะทำกำไรในปีนี้ได้มากขึ้น 12.4% เมื่อเทียบแบบ ปี ต่อ ปี ครับ ทางฝั่งของแผนก MMO เอง แม้ว่าจะมียอดขายที่ลดลงในปี Q3 ของปี แต่ก็ยังถือว่าได้กำไรอยู่ครับ (ต้องขอบคุณเหล่าผู้เล่น Final Fantasy XIV) ในปี 2021 จะมีการประกาศเปิดตัว Expansion ใหม่ของ FFXIV และยังมีการพอร์ต FF7 Remake มาลงให้กับ PS5 กับ PC ด้วย ดังนั้นคิดว่าในปีนี้เองทางบริษัทก็น่าจะยังทำเงินได้มากสุดๆ เหมือนเดิมครับ Credit: GamingBolt

หลังจากลงให้กับ PS4 เท่านั้นเป็นเวลา 1 ปี เร็วๆ นี้ Final Fantasy 7 Remake ก็กำลังจะมาลงให้กับเครื่องอื่นๆแล้ว (ซึ่งคิดว่าน่าจะเป็น PC กับ PS5) แม้ว่าตอนนี้จะยังไม่มีการเปิดตัว Part 2 ของเกมเวอร์ชันนี้เลย (น่าจะมาหลัง FF16) โดยล่าสุดคุณ Kitase ที่เป็น Director ได้บอกว่า เนื้อเรื่องของ Part 2 จะทำให้แฟนๆ ทุกคนตกใจ จาก CEDEC conference (ที่แปลโดย @Aitaikimochi บน Twitter) ไดเรกเตอร์ทั้ง 2 คุณ Yoshinori Kitase และ Naoki Hamaguchi ได้กล่าวว่า "พวกเราอยากทำให้ Final Fantasy 7 Remake Part 2 จะเป็นเกมที่ยังคงตอบสนองต่อความคาดหวังของแฟนๆ ได้ ซึ่งในขณะเดียวกัน มันจะเหนือความคาดหมายของแฟนๆ ไปในทางที่ดีด้วย" ย้อนกลับไปพูดถึงเนื้อเรื่องในตัวเกมเวอร์ชัน Remake ก็คงต้องยอมรับว่ามีการเปลี่ยนแปลงไปจากต้นฉบับพอสมควร จนส่งผลให้ฉากจบที่ควรจะเป็นไม่เหมือนเดิม และคงไม่มีใครสามารถคาดเดาเนื้อเรื่องของช่วงต่อไปได้อีกแล้ว มารอลุ้นไปพร้อมๆ กันว่า เรื่องราวใน Part 2 นี้จะสร้างความตกใจให้เราได้ขนาดไหนครับ! FF7R Producer Kitase and Co-Director Hamaguchi talked a bit about Part 2 during the CEDEC conference! Heres the excerpts translation. Kitase mentions for Part 2, they want to deliver something that will live up to everyones expectations but also throw them off, in a good way. pic.twitter.com/aJtZq2jdz7 — ☆オードリーAudrey☆ (@aitaikimochi) January 30, 2021 Credit: GamingBolt

ในช่วง 6 - 7 วันก่อนหน้านี้มีข่าวลือที่บอกว่า Final Fantasy 7 Remake จะลงให้กับ PS5 หลังจากช่วงเวลา Exclusive บน PS4 หมดลงในช่วงต้นเดือน 4 ของปี 2021 ซึ่งวันนี้จากเว็บไซต์ ResetEra เอง ก็มีข่าวลือคล้ายๆ กันถูกปล่อยออกมาจาก KatharsisT ผู้เคยปล่อยข่าวลือที่มีความถูกต้องสูงเกี่ยวกับเกมของ Square Enix มาก่อนครับ! KatharsisT ได้กล่าวว่า เขาทราบเพียงแค่ว่าตัวเกมเวอร์ชัน PS5 และ PC จะถูกเปิดตัวภายในปี 2021 นี้ แต่เรื่องว่าจะลงวันไหน เดือนไหน เขาเองก็ไม่ทราบเช่นกัน จากรายงานของเว็บไซต์ Dsogaming ดูเหมือนว่าจะมีคนที่ขุดไฟล์เกม Demo แล้วพบกับโค้ดบางส่วนที่สนับสนุนว่าตัวเกมจะลงให้กับ PC ไม่ว่าจะเป็น AMD, NVIDIA หรือ Resolutions สูงๆ ดังนั้นคิดว่ามีความเป็นไปได้สูงที่เราจะได้เล่นบนเครื่อง PC จริงๆ ครับ ในจุดที่จะลง PC คิดว่าคงไม่อยู่เหนือความคาดหมายเท่าไหร่ แต่สิ่งที่น่าสนใจคือตัวเกมจะรองรับ Ray-Tracing กับ DLSS หรือไม่? มากกว่า ถ้าหากว่าเราสามารถเล่นเกมนี้แบบเปิด Ray ได้คิดว่าคงเป็นอะไรที่น่าตื่นเต้นไม่น้อยเลยจริงๆ ครับ Yeah already discussed this yesterday in Discord with others that there are many "many" signs inside the Demo that we will see a future PC Port sooner or later. There is PC Code still left inside, and it mentions various higher Resolutions together with some NVIDIA and AMD stuff. — Roxanne ❎??‍♀️? (@roXyPS3) January 2, 2020 Credit: dsogaming

เกือบจะครบ 1 ปี แล้วตั้งแต่ที่ Final Fantasy 7 Remake ลงให้กับ PS4 เมื่อปีที่แล้ว มันจึงหมายความว่าชาว PC ใกล้จะได้สัมผัสเกมนี้ในแบบที่ภาพสวยกว่า และเฟรมเรตดีกว่าแล้วเร็วๆ นี้ (FF7 Remake จะเอ็กซ์คลูซีฟจนถึงวันที่ 10 เมษายน 2021) ซึ่งนี่อาจหมายถึงการที่ตัวเกมอาจมีเวอร์ชัน PS5 ออกมาด้วยเช่นกันครับ Navtra ซึ่งเป็นผู้ปล่อยข่าวลือเกี่ยวกับ Final Fantasy 16 และเกมอื่นๆ อีกมากมายก่อนเปิดตัวเมื่อปีที่แล้ว ได้โพสต์ข้อความใหม่บนเว็บไซต์ ResetERA กล่าวถึงการเปิดตัวของ Final Fantasy 7 Remake เวอร์ชัน PS5 กับ Expansion ใหม่ของ Final Fantasy XIV ในช่วงต้นเดือนหน้า แถมพวกเขายังคิดว่า Life is Strange ภาคใหม่ก็อาจเปิดตัวในช่วงเวลาเดียวกันด้วย อย่างไรก็ตาม Navtra ยังกล่าวอีกด้วยว่า สถานการณ์โควิดที่โลกเจออยู่ในตอนนี้ อาจทำให้ไม่มีการเปิดตัวอะไรเลยในช่วงเดือนหน้าก็เป็นได้ แต่เขาก็ยังเชื่อว่าภายในเดือน กุมภาพันธ์ของปีนี้ เราจะได้เห็น Square Enix ปล่อยข้อมูลออกเกี่ยวกับโปรเจคต์ที่ทำอยู่ออกมาเพิ่มเติมอย่างแน่นอน Final Fantasy 7 Remake วางจำหน่ายแล้ววันนี้บนเครื่อง PS4 เท่านั้น Credit: GamingBolt

PlayStation Partner Awards 2020 คืองานประกาศรางวัลให้กับเกมยอดเยี่ยมที่ลงให้กับเครื่อง PlayStation ในปี 2020 ซึ่งงานนี้จะมีจัดขึ้นหลายภูมิภาคทั่วโลกซึ่งในโซน Japan Asia เป็น Final Fantasy 7 Remake,  Dragon Ball Z: Kakarot, และ eFootball PES 2020 ที่ได้รางวัลไปในปีนี้ครับ! โปรดิวเซอร์ของเกมคุณ Yoshinori Kitase ขึ้นรับรางวัลในงานครั้งนี้พร้อมกับดาบ Buster Sword ที่เป็นการบ่งบอกว่าเขารู้สึกภาคภูมิใจกับรางวัลนี้ และเกม FF7 Remake มากขนาดไหน ซึ่งนอกจากรางวัลดังกล่าวเกมนี้ยังมีอีกหลายรางวัลที่เข้าไปรอในรอบชิงแล้วใน The Game Awards 2020 งานนี้ต้องรอดูวันที่ 10 ธันวาคม 2020 พร้อมกันว่าเกมนี้จะได้รางวัลอะไรบ้างครับ Final Fantasy 7 Remake วางจำหน่ายแล้ววันนี้บนเครื่อง PS4 และ PS5 Credit: GamingBolt 

หนึ่งในเกมที่ทุกคนต่างรอคอยในการเปิดให้แฟนๆ ได้เข้าไปเล่นกันต่อกับเกมแห่งปีที่จะเป็นอะไรไปไม่ได้เลยนอกจาก Final Fantasy 7 Remake ซึ่งมีข่าวลือ และรายละเอียดของตัวเกมออกมาตลอดเวลาทำให้ผู้คนต่างคาดหวังกับส่วนของ Part 2 ที่กำลังพัฒนาอยู่ว่าจะออกมาเป็นอย่างไร     จากบทสัมภาษณ์ผ่านสื่อ Famitsu ที่ได้พูดคุยกับหนึ่งผู้พัฒนาเกมคุณ Tetsuya Nomura เขาได้ให้สัมภาษณ์ว่าการทำงานภายในทีมเป็นไปอย่างราบลื่นไม่มีปัญหาภายในทีมตลอดระยะเวลาในการทำงานเลย ด้วยการวางแผนการทำงานที่ดี และการทำตามแผนงานตั้งแต่เริ่ม แต่สิ่งที่เกิดขึ้นกับทีมพัฒนาคือความเห็นต่างในเรื่องของเนื้อเรื่องตอนท้ายที่หลายๆ  คนอยากให้จุดจบแตกต่างออกไปจากเดิมเนื่องจากมีความเห็นว่าผู้เล่นใน Part แรกอาจคาดเดาเนื้อเรื่องใน Part ที่ 2 ได้     แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นทางผู้พัฒนาก็ยังไม่ได้มีการออกมายืนยันอย่างแน่ชัดว่าตัวเกมจะเปลี่ยนจากเดิมหรือไม่ ไม่แน่ว่าอาจจะได้เห็นเนื้อเรื่องที่ดูมีความเข้มข้นขึ้นจากบางส่วนที่ผู้พัฒนาตั้งใจอยากจะทำให้ผู้เล่นตื่นเต้นกับตัวเกมใน Part 2 มากกว่า Part ก็เป็นได้ ถือว่าผู้พัฒนาเองมีความใส่ใจในการพัฒนาอยู่ตลอดเวลายังไงก็คงต้องติดตามกันต่อไปค่ะ     Credit: Gamingbolt

เหมือนกับหลายๆ วงการ โลกของวิดีโอเกมเองก็ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของ COVID-19 เช่นกัน ผลกระทบนี้ทำให้การพัฒนาเกมหรือการให้บริการเกมล่าช้าลง และหนึ่งในเกมที่ได้รับผลนั้นก็คือ Final Fantasy VII Remake โปรดิวเซอร์ Yoshinori Kitase ให้สัมภาษณ์กับ The Guardian เกี่ยวกับสถานการณ์ภาคต่อของ Final Fantasy VII Remake เขากล่าวว่าเกมนี้ก็ได้รับผลกระทบเช่นกัน แต่เขาไม่คิดว่ามันจะเป็นผลกระทบในระยะยาว ในปัจจุบันทีมพัฒนายังคงสร้างเกมต่อไป แม้ว่าประสิทธิภาพของการทำงานจะลดลงเพราะต้องทำงานทางไกล Kitase หวังว่าเกม Final Fantasy VII Remake จะช่วยบรรเทาความเครียดของผู้คนที่ต้องใช้ชีวิตในช่วงเวลา Lockdown และมอบความเพลิดเพลินให้กับช่วงเวลาที่ยากลำบากนี้ เมื่อต้นปีไม่นานหลังจากวางจำหน่าย Final Fantasy VII Remake ทีมพัฒนาก็ประกาศว่ากำลังทำภาคต่อของเกมดังกล่าว แต่ไม่มีใครคาดคิดว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น เราก็ได้แต่หวังว่าภาคต่อของเกมนี้จะทำออกมาได้ดีเหมือนภาคแรกครับ Credit: Gamingbolt

Final Fantasy 7 Remake วางจำหน่ายมาได้เกือบจะ 2 เดือนแล้ว ซึ่งเชื่อว่าหลายคนน่าจะเล่นเกมนี้จนเคลียร์ และพบว่าเนื้อเรื่องของเกมเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมพอสมควร ทำให้เราไม่รู้แล้วว่าใน Part ต่อไปที่จะออกมา เนื้อเรื่องของเกมจะเป็นไปในทิศทางไหน แต่เหมือนว่าตอนแรกโปรดิวเซอร์ของเกมจะอยากให้เนื้อเรื่องมันแตกต่างจาก Original มากกว่านี้อีกครับ! Yoshinori Kitase ผู้เป็นโปรดิวเซอร์ของเกมได้เปิดเผยกับ Push Square ว่า ในตอนแรกตัวเขาตั้งใจที่จะให้เนื้อเรื่องมันแตกต่างไปจาก Original มากกว่านี้ แต่ว่าไดเร็กเตอร์ทั้งสองคุณ Tetsuya Nomura กับ Naoki Hamaguchi คิดว่าควรให้ความเคารพเนื้อเรื่อง Original และรักษามันไว้ให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ทำให้เนื้อเรื่องของเกมมันออกมาอย่างที่เราเห็นในปัจจุบันครับ Final Fantasy 7 Remake วางจำหน่ายแล้ววันนี้บนเครื่อง PS4 เท่านั้น Credit: GamingBolt สำหรับข่าวสารเกมที่น่าสนใจ คลิ๊ก!

บทความนี้อาจจะมีเนื้อหาสปอยเนื้อเรื่องของเกม Final Fantasy 7 Remake เชื่อว่าเกมเมอร์ส่วนใหญ่น่าจะได้สัมผัสกันไปแล้วกับเกม Final Fantasy 7 Remake เกม JRPG สุดคลาสสิค ที่คืนชีพขึ้นมาใหม่ด้วยเกมเพลย์ กราฟฟิค และเนื้อเรื่องที่พัฒนาขึ้นจากเมื่อยีสิบกว่าปีที่แล้วอย่างลิบลับ แม้ว่าสุดท้ายแล้ว จะมีแฟนๆ บางส่วนที่ไม่ค่อยพอใจกับช่วงตอนจบ ที่ดูจะเปลี่ยนแปลงทิศทางของเนื้อเรื่องเกมไปอย่างมาก แต่สุดท้ายแล้วไม่ว่าจะชอบหรือไม่ชอบตอนจบ เชื่อว่าทุกคนที่ได้เล่นเกมก็คงแอบรอดูภาคต่อไปของเกมอย่างจดจ่อไม่แพ้กันอย่างอย่างแน่นอน แต่ดูเหมือนว่าในขณะนี้ แม้แต่ผู้พัฒนาก็ยังไม่สามารถบอกได้อย่างแน่ชัดว่าเกมภาคสองจะออกมาหน้าตาเป็นอย่างไรกันแน่ อ้างอิงจากบทสัมภาษณ์ผู้พัฒนาตำแหน่งผู้กำกับร่วมสองคน คุณ Motomu Toriyama และ Naoki Hamaguchi และผู้กำกับระบบต่อสู้คุณ Teruki Endo ในหนังสือ Final Fantasy VII Remake Ultimania ที่เปิดเผยว่าในขณะนี้ เกม FF7R ภาคสองยังคงอยู่ในกระบวนการวางแผนเท่านั้น และยังไม่มีการตัดสินใจอะไรแน่นอนเกี่ยวกับเกมภาคใหม่ Here is Part 8 of the #FF7RUltimania interview with Toriyama (Co-Director), Hamaguchi (Co-Director), and Endo (Battle Director) where they talk about plans for the next installments world. Im translating this interview in random order, so parts will be uploaded sporadically! pic.twitter.com/cQAhVmD9Go — ☆オードリーAudrey☆ (@aitaikimochi) May 3, 2020 "เกมภาคแรกนั้นตั้งอยู่ในเมือง Midgar ทั้งหมด ซึ่งเป็นส่วนที่ผมรับผิดชอบในเกมภาคต้นฉบับด้วย ผมจึงจำเรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้นใน Midgar ได้ขึ้นใจเลย แต่ในเกมภาคใหม่นี้ เราจะให้ผู้เล่นได้ออกไปสำรวจนอกเมือง Midgar แล้ว ซึ่งผมยอมรับว่าตัวผมเองจำเนื้อเรื่องหลังจาก Midgar ไม่ค่อยได้แล้ว ผมจำได้ว่าพวกตัวเอกจะเดินทางไปยังเมืองที่ชื่อว่า Kalm ต่อไป แต่ระหว่างทางเกิดอะไรขึ้นบ้าง อันนี้คงต้องไปเล่นเกมดั้งเดิมทวนความจำซะก่อน" คุณ Toriyama กล่าว ด้วยสเกลของเกม ที่ถูกปรับให้กว้างใหญ่ขึ้นกว่าเกมภาคต้นฉบับหลายเท่า ย่อมทำให้การออกแบบโลก Open World ของเกมภาคต่อมีความท้าทายตามไปด้วย ซึ่งคุณ Hamaguchi กล่าวว่าทีมพัฒนาอยากจะทำให้โลกของเกมมีความกว้างใหญ่ไพศาล เพื่อให้ผู้เล่นได้รับรู้ถึงความรู้สึกของการผจญภัยจริงๆ แต่ในขณะเดียวกัน โลกก็ต้องไม่ใหญ่เกินไปจนเป็นอุปสรรคกับเนื้อเรื่อง ซึ่งเป็นจุดสมดุลที่ทีมพัฒนายังหากันอยู่ในช่วงนี้ สุดท้ายนี้ เมื่อถูกถามถึงความคาดหวังของผู้พัฒนาต่อเกมภาคต่อไป ทางคุณ Hamaguchi กล่าวว่าเขายังคงอยากให้เกมภาคต่อไปสามารถสร้างความรู้สึกตื่นตาตื่นใจให้กับผู้เล่นได้ไม่ต่างกับเกมภาคแรก โดยเขาอยากจะเพิ่มระบบใหม่ๆ ที่จะทำให้เกมภาคต่อแตกต่างจากเกมภาคแรก แต่จะเป็นอะไรกันแน่นั้น คงต้องรอติดตามกันต่อไปอีกยาวๆ เลยจ้า! Final Fantasy VII Remake วางจำหน่ายแล้วสำหรับ PS4 โดยเฉพาะ สำหรับคนที่ยังไม่ได้สัมผัสเกม สามารถอ่านรีวิวของเราได้ตามลิงค์ นี้ ส่วนคนที่เล่นจบแล้ว อยากจะร่วมพูดคุยกันเกี่ยวกับทิศทางในอนาคตของซีรี่ส์ สามารถเข้าไปอ่านบทวิเคราะห์ตอนจบเกม (คลิ๊ก) และบทความเปิดประวัติตัวละคร Zack Fair (SOLDIER ผมดำในนิมิตของ Cloud) ของเราได้ ที่นี่ Credit: Siliconera สำหรับข่าวสารเกมที่น่าสนใจ คลิ๊ก!

Final Fantasy 7 Remake วางจำหน่ายมาได้ 20 วันแล้ว ซึ่งคงต้องยอมรับว่า FF7 Remake เป็นเกมที่ทำออกมาได้ดีมากเลยทีเดียว ไม่ใช้แค่เกมเพลย์ กับเนื้อเรืองเท่านั้นที่ทำออกมาได้ดี แต่เพลงประกอบของเกมเองก็เรียกได้ว่าทำออกมาได้ยอดเยี่ยมมากๆ เช่นกัน ไม่ใช้เรื่องแปลกเลยที่จะมีการจัดคอนเสิร์ต Orchestra โดยนำเพลงในเกมมาเล่นสดให่ฟังด้วย ซึ่งตอนแรกตัว Final Fantasy 7 Remake Orchestra World Tour มีกำหนดจะไปขึ้นแสดงในหลายๆ ประเทศช่วงปี 2020 นี้ แต่เพราะการระบาดของ COVID-19 ก็เลยดูเหมือนว่า การขึ้นแสดงจะต้องถูกเลื่อนออกไปเป็นปี 2021 แทนในบางพื้นที่ครับ! รายชื่อของโชว์ที่ต้องถูกเลื่อนวันขึ้นแสดงออกไปเป็นปี 2021 แทนนั้นตอนนี้มี 3 โชว์ด้วยกัน ซึ่งทางเราก็ได้ทำการสรุปไว้ให้แล้วข้างล่างนี้ ว่างานไหนบ้างที่ถูกเลื่อนออกไป และเลื่อนออกไปเป็นวันที่เท่าไหร่ครับ The Los Angeles จากวันที่ 14 มิถุนายน 2020 เลื่อนไปเป็นวันที่ 6 มีนาคม 2021 The Toronto, Ontario จากวันที่ 26 และ 27 มิถุนายน 2020 เลื่อนไปเป็นวันที่ 20 และ 21 พฤษภาคม 2021 Singapore จากวันที่ 4 กรกฎาคม 2020 เลื่อนไปเป็นวันที่ 23 มิถุนายน 2021 แทน Final Fantasy 7 Remake วางจำหน่ายแล้ววันนี้บนเครื่อง PS4 เท่านั้น Credit: Siliconera สำหรับข่าวสารเกมที่น่าสนใจ คลิ๊ก!  

ในยุคสมัยของ PlayStation 1 วงการวีดีโอเกมก็ได้เข้าสู่ยุคสมัยของกราฟฟิคที่พัฒนาขึ้น ซึ่งในปี 1997 เกม Final Fantasy VII ก็ได้แสดงให้ชาวเกมเห็นถึงกราฟฟิคที่สวยงามมากที่สุด ไม่ว่าจะเป็นตัวละครหรือเมืองขนาดใหญ่ ที่ถูกสร้างขึ้นมาด้วยเทคนิคที่ไม่น่าจะทำได้ในสมัยนั้น และเกิดเป็นมาตรฐานใหม่ของเกม Final Fantasy ที่จะมาพร้อมกับภาพที่มีความสมจริงนับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา จนกระทั่งการกลับมาของ Final Fantasy VII Remake ในปี 2020 งานใหญ่อีกงานหนึ่งของ Square Enix ก็คือการทำให้กราฟฟิคและตัวละครของเกม ให้กลับมาในภาพที่มีความสมจริงล้ำสมัยอีกครั้ง ด้วยเทคดนโลยีในปัจจุบันที่ก้าวหน้าไปไกลกว่าเดิม ซึ่งเบื้องหลังที่มาของการทำให้ตัวละครมีความสมจริงนั้นจะเป็นอย่างไร ก็สามารถติดตามได้ใน Inside Final Fantasy VII Remake ตอนสุดท้ายนี้ ********** อ่านตอนที่ 1 / อ่านตอนที่ 2 / อ่านตอนที่ 3 / อ่านตอนที่ 4 ********** เมื่อปี 2005 ภาพยนตร์ Final Fantasy VII: Advent Children ได้เคยแสดงให้ผู้คนทั่วโลกได้เห็นถึงความสมจริงของกราฟฟิค CG ที่มีตัวละครเหมือนกับคนจริงๆ มาแล้ว และถึงแม้มันจะผ่านมานานกว่า 10 ปีแล้ว แต่หลายคนก็ยังคงรู้สึกว่ากราฟฟิคของภาพยนตร์นั้นยังมีความสมจริงอยู่มากทีเดียว ด้วยเทคโนโลยีที่พัฒนาขึ้น คุณ Tetsuya Nomura (Director & Concept Design) จึงได้บอกว่าตัวเกมในตอนนี้นั้นเป็นกราฟฟิคที่มีความสมจริงแบบ “Remake” ซึ่งทั้ง Remake และ Advent Children นั้นถึงพยายามจะทำให้มีความสมจริงมากขนาดไหน แต่พวกเขาก็ไม่ได้ทำให้สมจริงเหมือนกับคนจริงๆ แบบ 100% เพื่อเป็นการรักษาเสน่ห์ของตัวละครเอาไว้ ทั้งสองภาคจึงได้ทำให้มีความคาบเกี่ยวกับคนจริงๆ แบบเฉียดฉิวมากที่สุด คุณ Masaaki Kazeno (Character Modelling Director) และ คุณ Hiroyuki Nagatsuka (Lead Animator) เป็นผู้รับผิดชอบเรื่องการทำโมเดลของตัวละคร ไม่ว่าจะเป็นโมเดลของตัวละครเอกอย่าง Cloud, Barret, Aerith, Tifa และศัตรูกับมนต์อสูร ซึ่งคุณ Masaaki จะดูภาพต้นแบบตัวละครฉบับดั้งเดิมที่ดีไซน์โดยคุณ Nomura ควบคู่กับองค์ประกอบใหม่ที่ได้ถูกดีไซน์ขึ้นมาในภาคนี้ จากนั้นจึงได้นำมาปรับเปลี่ยนให้เป็นสัดส่วนที่ดูมีความสมจริงมากขึ้น ยกตัวอย่างเช่นตัวเอกอย่าง Cloud ที่จะถือดาบ Buster Sword ที่มีขนาดใหญ่เอาไว้ เขาจึงต้องดูมีกล้ามเนื้อที่จะถือดาบได้อยู่บ้าง ถึงแม้ว่าจะมีรูปร่างที่ผอมเพรียวก็ตาม และจุดเด่นของตัวละครใน Final Fantasy ที่ขาดไปไม่ได้เลยก็คือทรงผม ซึ่งพวกเขาต้องทำให้ดูแบบ 360 องศาแล้ว ก็ยังดูเป็นทรงผมที่ชี้แหลมของ Cloud ได้อยู่ ส่วนเรื่องการเคลื่อนไหวของตัวละครนั้น คุณ Hiroyuki จะต้องคิดว่าตัวละครแต่ละคนจะแสดงการเคลื่อนไหวแบบไหน ซึ่งแต่ละตัวละครจะมีการเคลื่อนไหวร่างกายที่ต่างกัน อย่างเช่นเมื่อเวลาตัวละครอยู่เฉยๆ ก็จะเห็นแบร์เร็ตขยับแขนหรือจับแขนข้างที่มีอาวุธอยู่ ส่วนคลาวด์ก็อาจจะขยับดาบที่มีขนาดใหญ่ซึ่งเป็นจุดเด่นของตัวเอง ทางด้าน คุณ Hidekazu Miyake (Cutscene Director) ที่รับผิดชอบส่วนของฉากคัตซีน ก็ต้องทำคัตซีนขึ้นมาใหม่โดยอ้างอิงจากเกมต้นฉบับเดิม ซึ่งจะมีอีกหลายฝ่ายที่เกี่ยวข้องกับการทำงานในส่วนนี้อย่าง คุณ Ryo Hara (Lead Animation Programmer) และ คุณ Akira Iwasawa (Facial Director) ที่เป็นผู้รับผิดชอบเป็นส่วนสุดท้าย ด้วยการทำส่วนของการแสดงสีหน้าตัวละคร ซึ่งในขณะที่ Final Fantasy VII: Advent Children ฝ่ายอนิเมเตอร์ต้องเริ่มทำภาพขึ้นมาจาก 0 โดยที่ไม่ได้ใช้เทคโนโลยีตรวจจับใบหน้าเหมือนในสมัยนี้ ซึ่งการแสดงสีหน้าตัวละครในภาค Remake นี้ ก็จะมีการใช้ Facial Capture ที่แสดงผลการตรวจจับใบหน้าได้แบบเรียลไทม์เหมือนกับ Motion Capture โดยพื้นฐานของการแสดงสีหน้าจะมี 6 แบบ คือ โกรธ, เกลียด, กลัว, ดีใจ, เสียใจ, และ ตกใจ ซึ่งทุกตัวละครจะมีการเซ็ตอัพการแสดงสีหน้าในแบบต่างๆ เอาไว้ และนำมาปรับให้เข้ากับเสียงพากย์ ทำให้การเคลื่อนไหวของปากนั้นสามารถเปลี่ยนตามเสียงพากย์ของประเทศต่างๆ ได้โดยอัตโนมัติตามที่เซ็ตไว้ ทีมงานต้องการแสดงความเท่ของตัวละคร และความเป็น Final Fantasy VII รูปแบบใหม่ การเคลื่อนไหวในฉากต่างๆ จึงมีการทำงานที่แตกต่างกัน อย่างเช่น ฉากแรกของเกมที่ Cloud กระโดดลงมาจากรถไฟนั้น ก็ได้ใช้นักแสดงที่เป็นนักยิมนาสติกจริงๆ มาเป็นคน Capture การเคลื่อนไหวให้ หรือตอนที่ตัวละครถูกเสกกลายเป็นกบ คุณ Hiroyuki Yamaji (Battle Animation Director) ก็ได้ทำให้กบนั้นสามารถกระโดดได้ไกลถึง 15 เมตร และมีการออกแบบท่าต่อยเตะในเวลาต่อสู้ ซึ่งมันอาจจะไม่ได้เหมือนกบจริงๆ ซะทีเดียว แต่ก็เป็นการต่อสู้ของกบที่ไม่เคยมีใครเห็นมาก่อนแน่นอน อีกด้านหนึ่ง คุณ Iichiro Yamaguchi (Lighting Director) เป็นคนรับผิดชอบเรื่องการแสดงผลของแสง เขาก็ต้องทำให้มันสมดุลย์กับความ Retro และความ Modern เพื่อทำให้ผู้เล่นเก่ารู้สึกถึงโทนภาพที่คุ้นเคยในรูปแบบใหม่ได้ ซึ่งคุณ Ichiro ก็ได้บอกว่าส่วนที่ยากที่สุดคือการแสดงของแสงในเมืองสลัมของ Midgar ที่มีทั้งผู้คนและบ้านเมือง กับฉากของ Cloud และ Sephiroth ที่อยู่ท่ามกลางกองไฟ นอกจากเรื่องของกราฟฟิคตัวละคร และแสงสีต่างๆ แล้ว ก็ยังมีเรื่องของเอฟเฟ็คต์ประกอบเป็นสีสันเพิ่มเติมด้วย ซึ่งคุณ Shintaro Takai (Graphics & VFX Director) ก็บอกว่าเขารู้สึกสนุกกับการใส่เอฟเฟ็คต์เท่ๆ อย่างตอนเวลาที่ Cloud ใช้ Limit Break ที่ชื่อ “Cross Slash” เขาก็ต้องใส่เอฟเฟ็คต์ให้ตรงกับจังหวะการเคลื่อนไหว แต่ก็มีจุดที่ยากคือเหล่ามนต์อสูรที่ต้องทำให้มีคุณภาพมากขึ้นกว่าเดิมมาก ยกตัวอย่างเช่น Ifrit นั้น ในเกมต้นฉบับสามารถทำให้ดูเป็นการโจมตีด้วยไฟที่ร้อนแรงได้ก็พอ แต่ใน Remake นั้นจะต่างออกไป และมีเรื่องของการเคลื่อนไหวและการโจมตีด้วย สุดท้ายนี้ คุณ Yoshinori Kitase (Producer) ผู้เป็นคนริเริ่มทำโปรเจ็คต์ Final Fantasy VII Remake ก็ได้บอกว่าระหว่างการทำงานนั้นเขามีทั้งส่วนที่สนุกและมีความสุข จากการที่ได้นำผลงานที่ผ่านมาถึง 23 ปี ให้กลับมามีความสมจริงมากขึ้นอีกครั้ง ถึงแม้มันจะมีเรื่องแปลกๆ อย่างการที่มีมอนสเตอร์ปลาอยู่ในตึก หรือการมีหุ่นยนตร์ รวมถึงการตกจากความสูงมากกว่า 100 เมตร แล้วยังไม่ตายอยู่บ้าง แต่สิ่งเหล่านั้นก็ยังคงเอาไว้เพื่อไม่ให้เอกลักษณ์ของเกมต้นฉบับเปลี่ยนไป และทำให้ทีมงานสนุกกับการออกแบบกัน และคุณ Kitase ก็คาดหวังให้กราฟฟิคของเกมในตอนนี้ สามารถแสดงความรู้สึกของตัวละครได้อย่างสมจริง และเข้าใจความรู้สึกของตัวละครอย่าง Cloud รวมถึงให้ผู้เล่นได้สนุกกับเรื่องราวการต่อสู้กับบริษัทชินระ ภายในเมืองขนาดใหญ่ที่มีชื่อว่า Midgar นี้ด้วย

Final Fantasy 7 Remake วางจำหน่ายมาได้หลายอาทิตย์แล้ว ซึ่งคิดว่าหลายๆ คนก็คงจะเล่นตัวเกมภาคนี้จนเคลียร์กันไปแล้ว หลังจากที่เล่นเกมภาคนี้จนจบคิดว่าหลายคนคงสัยสัยเลยว่าตัวเกม Part ต่อไปจะวางจำหน่ายเมื่อไหร่ และภาคนี้จะมีทั้งหมดกี่ Part กันแน่ โดยคำตอบของคำถามนี้ ดูเหมือนว่าแม้แต่ Producer ของเกมเองก็ยังไม่รู้เหมือนกันว่าตัวเกมภาคนี้มันจะมีทั้งหมดกี่ Part กันแน่ครับ! ได้มีบทสัมภาษณ์กับคุณ Tetsuya Nomura ไดเรกเตอร์ของเกม และ Yoshinori Kitase ที่เป็นโปรดิวเซอร์ จากนิตยสาร Ultimania เกี่ยวกับเรื่องที่ว่าตัวเกมนั้นจะมีทั้งหมดกี่ Part รวมไปจนถึงมีแผ่นการต่อไปอย่างไรบ้าง ซึ่งเรื่องแรกที่คุณ Nomura เปิดเผยเกี่ยวกับ Part ต่อไปก็คือว่า "เราอยากให้การต่อสู้กับ Last Boss ตัวต่อไปนั้นเกิดขึ้นที่ทางหลวง Midgar และจะมีตัวละครหนึ่งที่รอดชีวิตมาได้ ซึ่งเขาจะนำไปสู่ปริศนาที่ยิ่งใหญ่กว่า" ส่วนว่าตัวเกมจะมีทั้งหมดกี่ Part นั้น คุณ Nomura ได้กล่าวว่า "มีการคาดเดากันอย่างแพร่หลายว่าเกมจะมีทั้งหมด 3 Part แต่ในความเป็นจริงก็ยังไม่รู้เหมือนกันว่าตัวเกมจะมีทั้งหมดกี่ Part" "ส่วนคำถามเรื่องว่าภาคต่อไปจะวางจำหน่ายเมื่อไหร่ อันนี้อาจจะขึ้นอยู่กับว่าสุดท้ายแล้วเราอยากให้เกมมีกี่ Part กันแน่ ถ้าเราแบ่งเนื้อเรื่องทั้งหมดออกเป็นแค่ไม่กี่ส่วน เกมแต่ละภาคอาจจะยาวขึ้น แต่ก็ต้องพัฒนานานขึ้นด้วยเช่นกัน ในทางกลับกัน ถ้าเราปล่อยเป็นส่วนเล็กๆ หลายส่วนแทน ก็อาจจะทำให้ปล่อยภาคต่อไปได้เร็วขึ้น ซึ่งผมเองได้แต่หวังว่าเราจะปล่อยภาคต่อไปได้โดยเร็วที่สุด" Final Fantasy 7 Remake วางจำหน่ายแล้ววันนี้บนเครื่อง PS4 เท่านั้น (หมายเหตุ: บทความเวอร์ชั่นดั้งเดิม มีการผิดพลาดในการแปลเนื้อหาจากแหล่งข่าว ทำให้ผู้สื่อข่าวรายงานว่าผู้พัฒนาจะปล่อยเกมออกเป็นหลายส่วน ซึ่งเราได้แก้ไขเนื้อหาให้ตรงตามข้อมูลที่ถูกต้องแล้ว ต้องขออภัยท่านผู้อ่านที่อาจจะเกิดการเข้าใจผิดจากข้อมูลที่คลาดเคลื่อนด้วยครับ) https://twitter.com/aitaikimochi/status/1254993181701111809?ref_src=twsrc%5Etfw%7Ctwcamp%5Etweetembed%7Ctwterm%5E1254993181701111809&ref_url=https%3A%2F%2Fwww.vg247.com%2F2020%2F04%2F28%2Fff7r-nomura-final-fantasy-7-remake-parts%2F https://twitter.com/aitaikimochi/status/1254993741451952128 Credit: VG247 ติดตามข่าวสารเกมต่างๆ ได้ที่  

เมื่อเร็วๆ นี้ มีข่าวที่ค่อนข้างชวนช็อคในแวดวงนักอ่านและนักเขียนพอสมควร เมื่อ คุณฉัตรชัย วิเศษสุวรรณภูมิ หรือที่รู้จักกันในนามปากกา พนมเทียน’ เจ้าของผลงานนิยายผจญภัยอมตะของไทยอย่าง ‘เพชรพระอุมา’ และศิลปินแห่งชาติสาขาวรรณศิลป์ปี 2540 ได้ถึงแก่กรรมในวัย 89 ปีด้วยโรคหัวใจ ถือได้ว่าเป็นความสูญเสียอย่างใหญ่หลวงแก่แวดวงอย่างที่ไม่อาจประเมินค่าได้ [caption id="attachment_51861" align="aligncenter" width="1024"] คุณฉัตรชัย วิเศษสุวรรณภูมิ หรือ ครูพนมเทียน เจ้าของผลงานนวนิยาย เพชรพระอุมา ผู้ล่วงลับ[/caption] สำหรับผู้เขียน เพชรพระอุมา จัดได้ว่าเป็นหนึ่งในผลงานที่ช่วย Shape เส้นทางงานตัวอักษรอยู่ไม่น้อย เพราะได้พาตัวเองไปร่วมท่องป่าล่องไพรไปกับจอมพรานอย่างรพินทร์ ไพรวัลย์และคณะ ก่อนที่จะเริ่มจับปากกาเขียนเรื่องราวของตัวเองอย่างจริงจัง แน่นอนว่าในความสมบูรณ์แบบของนวนิยายเรื่องนี้ตลอดทั้ง 48 เล่ม มันมีรูปแบบการดำเนินเนื้อหาในทฤษฎีหนึ่งอันเป็นที่ยอมรับอย่างกว้างขวางในทางวรรณกรรมวิจารณ์อย่าง ‘ทฤษฎีการเดินทางของวีรบุรุษ’ หรือ ‘Hero’s Journey’ ที่ถูกนำมาศึกษา และปรับใช้ในการบอกเล่าเรื่องราวผ่านสื่อแขนงต่างๆ และแน่นอน รวมถึงชิ้นงานอย่างวิดีโอเกมก็ไม่มีข้อยกเว้นด้วยเช่นกัน ทฤษฎีการเดินทางของวีรบุรุษนั้น ถ้ากล่าวโดยสั้นๆ มันคือการศึกษารูปแบบและลักษณะของเรื่องราวปรัมปรา ว่าแม้จะมีรายละเอียดปลีกย่อยบางส่วนที่แตกต่างกัน แต่ก็มีจุดร่วมและโครงสร้างบางอย่างที่เหมือนกันที่สามารถจัดจำแนกเป็นหมวดหมู่ได้อย่างสรุปเป็นหัวข้อได้ทั้งหมด 8 หลักใหญ่ร่วมกัน (หรือซอยย่อยออกเป็น 17 หัวข้อหลัก) ตามแผนภาพที่นำเสนอด้านล่างนี้ การศึกษาทฤษฎีการเดินทางของวีรบุรุษนั้น เริ่มต้นขึ้นในปี 1871 โดย เอดเวิร์ด เบอร์เนตต์ ไทเลอร์ ที่ทำการสังเกตว่า เรื่องราวและตำนานต่างๆ ของโลกนั้น มีจุดร่วมกันบางอย่างที่มีแบบแผนและรูปแบบที่ตายตัว ก่อนที่นักวิชาการท่านอื่นๆ จะนำเอาทฤษฎีทางจิตวิเคราะห์ของทั้ง ซิกมันด์ ฟรอยด์ และคาร์ล ยุง เข้ามาใช้ร่วมกัน แต่คนที่นำเอาทฤษฎีการเดินทางของวีรบุรุษมาใช้อย่างจริงจังนั้น กลับเป็น โจเซฟ แคมป์เบิล ที่นำเอาแนวคิดดังกล่าวมาใช้อย่างจริงจังในหนังสือ ‘วีรบุรุษพันหน้า (The Hero with a Thousand Faces) และสรุปเป็นหลักใหญ่ใจความสำคัญได้ดังต่อไปนี้ วีรบุรุษออกจากโลกธรรมดาไปสู่ดินแดนที่มีสิ่งเหนือธรรมชาติ ที่นี้เขาจะได้พบกับสิ่งชักจูงที่ยิ่งใหญ่ต่าง ๆ และจะได้รับชัยชนะ จากนั้นเขาจะกลับมาจากการผจญภัยอันลึกลับนี้พร้อมกับพลังที่สามารถช่วยผู้ชายคนอื่นได้ แน่นอนว่าทฤษฎีดังกล่าวนี้ แม้จะมีการใช้งานกันอย่างแพร่หลาย แต่ก็ไม่พ้นข้อครหาและเสียงวิพากษ์ว่า มันเป็นแนวคิดที่กว้างเกินกว่าที่จะใช้ประโยชน์ได้ในหลักการศึกษาปรัมปราวิทยาเปรียบเทียบ แต่เราคงไม่อาจปฏิเสธได้ว่า มันเป็นเสาหลักหรือ Foundation ที่ดีเพียงพอสำหรับการบอกเล่าเรื่องราวในสื่อชนิดต่างๆ ตั้งแต่ตำนานการเดินทางของพระพุทธเจ้า เรื่องราวของพระเยซูคริสต์ บัญญัติสิบประการของโมเสส การเดินทางไปทำลายแหวนหนึ่งเดียวของโฟรโด้ใน The Lord of the Rings และรวมถึงการเขียนเรื่องราวในสื่อแขนงใหม่อย่างเช่นภาพยนตร์ และวิดีโอเกม สำหรับสื่อวิดีโอเกมที่เติบโตและต่อยอดมาอย่างยาวนานจนกลายเป็นอีกหนึ่งสื่อบันเทิงแขนงหลักในรอบสี่ทศวรรษนั้น การพัฒนาการบอกเล่าเนื้อหาก็เป็นส่วนสำคัญที่ถูกให้ความใส่ใจ และการใช้ทฤษฎีการเดินทางของวีรบุรุษนั้น ก็เป็นอุปกรณ์สำคัญในการสร้างความลื่นไหลในจังหวะการเล่น เพราะไม่ว่าจะเป็นการตามหาเจ้าหญิงพีชใน Super Mario Brothers, การผจญภัยข้ามยุคของภาคีมือสังหารในซีรีส์ Assassin’s Creed, การลุยฝ่าขุมนรกของ Doom Slayer ใน Doom Eternal, การผจญภัยของ Cloud Strife และผองเพื่อนใน Final Fantasy 7 Remake ไปจนถึงการเดินทางกอบกู้โลกหลังหายนะของ Aloy ใน Horizon Zero Dawn แต่สื่อวิดีโอเกมนั้นมีความพิเศษบางอย่างที่ทำให้ผู้สร้างต้องมีความใส่ใจกับการใช้งานทฤษฎีของวีรบุรุษที่มากกว่าสื่อบันเทิงชนิดอื่นๆ กล่าวคือ มันเป็นสื่อที่ ‘มีการตอบสนอง’ และ ‘ปฏิสัมพันธ์’ กับผู้เสพรับอย่างตรงไปตรงมา มันคือการนำพาผู้เล่นไปสวมรับกับบทบาทและควบคุมทุกสิ่งที่เป็นไปผ่านหน้าจอในตลอดระยะเวลาหลักสิบจนถึงหลักร้อยชั่วโมง แน่นอนว่านี่ไม่ใช่เรื่องง่าย เมื่อเทียบกับสื่อที่มีธรรมชาติในการปฏิสัมพันธ์กับผู้เสพรับในทางเดียวอย่างเช่นภาพยนตร์ เพราะหน้าที่หลักของผู้สร้าง ไม่เพียงแต่จะต้องรังสรรค์โลกพื้นหลังของเกมให้มีความน่าเชื่อถือเป็น Context สำคัญ (ดังเช่นบทความชิ้นก่อนหน้านั้นที่ผู้เขียนได้ยกอ้างกล่าวถึงไปแล้ว) หากแต่ลำดับเรื่องราวและการเดินทางของตัวละครเอง ก็ต้องสมเหตุสมผลภายใต้ขอบเขตและเงื่อนไขที่กำหนด ไม่นับรวมกับ Content ที่จะต้องให้ความสนุกอย่างเพียงพอ ที่จะทำให้ผู้เล่นนั้นมีส่วนร่วม และเชื่ออย่างสนิทใจว่า ตัวละครที่เขาจะได้ใช้เวลาร่วมกันนั้น เป็นเวลาคุณภาพที่คุ้มค่ามากพอจนกว่าจะถึงปลายทาง อนึ่ง การใช้ทฤษฎีการเดินทางของวีรบุรุษในชิ้นงานวิดีโอเกม แม้จะเป็นเสาหลักสำคัญที่ผู้สร้างใช้ยึดโยงเอาไว้เป็นแก่นสำคัญ แต่ด้วยธรรมชาติของสื่อชนิดนี้เองนั้น เปิดทางให้กับการดัดแปลงและตีความได้อย่างหลากหลายสำหรับการบอกเล่าเนื้อหาและการใช้ทฤษฎีดังกล่าว เพราะมัน ‘อาจจะ’ ไม่จำเป็นว่าจะต้องจบลงด้วยความผาสุกแบบ Happy Ending เสมอไป การเรียนรู้และเหตุการณ์ของตัวละครอาจจะนำมาซึ่งความเจ็บปวด การแตกสลาย และการ ‘กลายสภาพ’ ไปสู่ตัวตนใหม่ (ซึ่งก็ตรงกับหลักข้อสุดท้ายของทฤษฎี…) ดังเช่นผลงานเกมเดินหน้ายิงอย่าง Spec Ops: The Line ได้เลือกใช้ (เป็นหนึ่งในผลงานเกมเดินหน้ายิงที่แม้จะไม่โด่งดังมากนัก แต่ก็มีเนื้อหาที่ยอดเยี่ยมที่ผู้เขียนขอแนะนำ…) และในทางหนึ่ง ในอนาคตข้างหน้า มันกำลังจะมีผลงานที่ท้าทายทฤษฎีการเดินทางของวีรบุรุษอย่าง Watch Dogs : Legion ที่ผู้เล่นจะได้สวมบทบาทตัวละครที่ ‘หลากหลาย’ ทั้งพื้นหลัง ความเป็นมา และคุณสมบัติ มันก็น่าลุ้นอยู่ไม่น้อย ว่าทีมสร้างจะสามารถผูกเรื่องราวและใช้ทฤษฎีดังกล่าวอย่างไร ภายใต้สภาพแวดล้อมเปิด และการมีจุดร่วมอย่างกว้างๆ ไม่เจาะจงตายตัว ถือได้ว่าเป็นความท้าทายอย่างยิ่งยวดสำหรับผลงานชิ้นนี้ (ที่เราอาจจะต้องรอนานกว่าที่คิด จากแผนการเลื่อนการวางจำหน่ายเกมของ Ubisoft ที่ถูกผลักออกไปอย่างไม่มีกำหนด…) แต่ในท้ายที่สุดนี้ หากมองในโครงสร้างของทฤษฏีการเดินทางของวีรบุรุษที่ถูกใช้งานมาในตลอดระยะเวลาหลายสิบปีนั้น มันก็สะท้อนถึงความต้องการบางอย่างที่อยู่ในส่วนลึกของจิตใจมนุษย์ได้เป็นอย่างดี ในความปรารถนาที่จะเป็น ‘ใครสักคน’ ที่มีความสำคัญ ออกเดินทางในการผจญภัยอันไม่ธรรมดา และกลับมาพร้อมชัยชนะอันยิ่งใหญ่ และสื่อวิดีโอเกม ก็ยิ่งตอกย้ำแนวคิดหลักนี้ให้เด่นชัดมากขึ้นโดยธรรมชาติของการปฏิสัมพันธ์และการตอบสนองของผู้เล่นที่มีต่อชิ้นงาน ที่สามารถควบคุม กระทำ และกำหนดทิศทางได้ด้วยตนเอง เพราะในโลกแห่งความเป็นจริงนั้น มันอาจจะเป็นวงจรอันน่าเบื่อหน่ายของการใช้ชีวิตตามกำหนดและรูปแบบที่คุ้นเคยและชินชา โดยเฉพาะกับสภาวการณ์ในปัจจุบัน ที่วิกฤติโรคร้าย COVID-19 ทำให้ทุกอย่างถูกแช่แข็งและหยุดนิ่งไปโดยไม่รู้ว่าปลายทางจะไปจบลงที่ใด และเปลี่ยนโฉมหน้าของการเล่นเกมไปในทิศทางที่ไม่เคยมีมาก่อน… และการได้สวมบทบาทเป็นใครสักคน ไม่ว่าจะในรอยเท้าของรพินทร์ ไพรวัลย์กับคณะแห่งเพชรพระอุมา หรือวีรกรรมของ Big Boss (Punished Snake) ในซีรีส์ Metal Gear Solid ก็ตอบรับกับเสียงเรียกที่อยู่ภายในใจของเรา ที่ถูกปลูกฝังผ่านสื่อ เรื่องราว การบอกเล่า มาอย่างยาวนานตลอดช่วงระยะเวลาการเติบโตมาเป็นตัวตนในทุกวันนี้ และ ตัวเอกที่ดี ที่เรามีใจอยากเชียร์ ก็ถูกสะท้อนผ่านแนวคิดของทฤษฎีดังกล่าว ไม่ว่าจะทางใดทางหนึ่ง เสมอมา... ติดตามข่าวสารเกมต่างๆ ได้ที่

Final Fantasy 7 Remake เป็นการกลับมาที่เรียกได้ว่ายอดเยี่ยมมากๆ ซึ่งในช่วงตอนจบของเกมก็ทำเอาผู้เล่นอยากรู้เลยว่า Part ต่อไปของเกมจะมาเมื่อไหร่ แน่นอนว่ามันคงไม่ใช้เร็วๆ นี้อย่างแน่นอนที่เราจะได้สัมผัสตัวเกม แต่ไม่แน่ว่าเราอาจจะได้เห็นส่วนหนึ่งของอาวุธที่จะมีให้เก็บในเกม Part ต่อไปจาก Final Fantasy 7 Remake Art Book เป็นที่เรียบร้อยแล้วครับ! ภายใน Art Book นั้นมีภาพ Concept Art ของอาวุธมากมาย ซึ่งบางอันเราก็ได้เห็นในเกม Final Fantasy 7 Remake ที่ออกมาแล้ว แต่อาวุธบางชิ้นที่มีอยู่ใน Concept Art นั้นไม่มีอยู่ในเกมด้วย ทำให้คิดว่าเป็นไปได้อาวุธเหล่านั้นอาจจะไปปรากฏในตัวเกม Part ต่อๆ ไป แน่นอนว่ามีความเป็นไปได้ที่ บางชิ้นอาจจะแค่ไม่ถูกนำมาใช้จริงเฉยๆ เช่นกันครับ ดูรูปต่างๆ ได้ข้างล่างนี้เลย Final Fantasy 7 Remake วางจำหน่ายแล้ววันนี้บนเครื่อง PS4 ครับ Credit: GamingBolt ติดตามข่าวสารเกมต่างๆ ได้ที่  

Final Fantasy 7 Remake นั้นวางจำหน่ายมาได้หลายอาทิตย์แล้ว ตัวเกมได้รับเสียงตอบรับที่ค่อนข้างดี ซึ่งในภาคนี้ก็มีตัวละครหลายตัวเลยที่ได้ทำการเปิดตัว Red XIII เองก็เป็นหนึ่งในนั้นเช่นกัน น่าเสียดายที่มันเป็นช่วงเวลาสั่นๆ เท่านั้นที่เราได้เขามา Guest Character ช่วยต่อสู้ด้วย แต่ดูเหมือนว่าด้วย Save Editor เราก็สามารถเล่นเป็น Red XIII ในช่วงสั่นๆ ของเกมได้นั้นครับ Save Editor ตัวนี้ถูกสร้าง และพัฒนาโดย Xeeynamo ซึ่งด้วย Save Editor ตัวนี้ผูเล่นสามารถ จัดการช่องเก็บของ รวมไปจนถึง Materia และ Levels ของตัวละครได้ เหนือสิ่งอืนไดคือผู้เล่นจะสามารถควบคุม Red XIII ด้วยตัวเองได้เช่นกัน จริงๆ แล้ว Red XIII นับเป็นตัวละครหลักของเกม FF7 Remake แต่ที่เราไม่สามารถเล่นเป็นเขาได้นั้น จากคำยืนยันของคุณ Naoki Hamaguchi ทำให้ทราบว่า เป็นเพราะเหล่าผู้พัฒนาไม่มีเวลามากที่จะทำให้เขาเป็นตัวละครที่เล่นได้ครับ Final Fantasy 7 Remake วางจำหน่ายแล้ววันนี้บนเครื่อง PS4 https://twitter.com/MP1stLara/status/1253057708976193536 Credit: VG247 ติดตามข่าวสารเกมต่างๆ ได้ที่

Final Fantasy 7 Remake เปิดตัวด้วยการขายได้มากกว่า 3.5 ล้านชุดภายในเวลาแค่ 3 วัน ข่าวนี้บอกเราได้เป็นอย่างดีว่ามีผู้เล่นมากมายขนาดไหนที่รอการมาของเกมนี้ ซึ่งในประเทศญี่ปุ่นที่เป็นต้นกำเนิดของเกมเอง ก็มียอดขายที่สูงถึงเกือบ 700,000 ชุดในอาทิตย์แรกเช่นกัน แต่เหมือนว่ากระแสของเกมจะไม่ได้แรงมากมายอะไรขนาดนั้นครับ เพราะในอาทิตย์ที่ 2 ของการวางจำหน่าย กลับเป็น Animal Crossing: New Horizons ที่สามารถทำยอดขายได้สูงกว่าถึง 4 เท่าครับ! Famitsu ได้เผยยอดขายเกมในอาทิตย์ก่อนในประเทศญี่ปุ่น ซึ่งนับเป็นอาทิตย์ที่ 2 ของการวางจำหน่ายเกม Final Fantasy 7 Remake ตัวเกมนั้นมียอดขายเหลือเพียงแค่ 70,652 ชุดเท่านั้นในขณะที่ทาง Animal Crossing: New Horizons กลับมียอดขายสูงถึง 286,586 ทั้งที่ตัวเกมวางจำหน่ายมมานานมากแล้ว ข่าวนี้บงบอกได้เป็นอย่างดีเลยครับว่าตัวเกม Animal Crossing: New Horizons นั้นมาแรงขนาดไหน และทำไมเครื่อง Nintendo Switch จึงขาดตลาดเป็นอย่างมากในประเทศญี่ปุ่นครับ ดูอันดับยอดขายเกมอื่นๆ ได้ข้างล่างนี้ ข้างหน้ายอดขายของอาทิตย์ที่แล้ว ข้างหลังเป็นยอดขายตลอดกาลในประเทศญี่ปุ่น 01. [NSW] Animal Crossing: New Horizons – 286,586 / 3,611,246 02. [PS4] Final Fantasy 7 Remake – 70,652 / 773,505 03. [NSW] Mario Kart 8 Deluxe – 13,313 / 2,882,585 04. [PS4] Resident Evil 3 – 12,247 / 236,435 05. [NSW] Super Smash Bros. Ultimate – 9,034 / 3,655,868 06. [PS4] One Piece: Pirate Warriors 4 – 8,682 / 116,217 07. [NSW] One Piece: Pirate Warriors 4 – 8,080 / 98,912 08. [NSW] Super Mario Party – 8,005 / 1,406,903 09. [NSW] Pokemon Sword / Shield – 7,915 / 3,570,493 10. [NSW] Minecraft – 7,154 / 1,356,230 Credit : Gamingbolt ติดตามข่าวสารเกมต่างๆ ได้ที่  

หลังจากรอคอยมานานหลายปีในที่สุดเหล่าเกมเมอร์ก็มีโอกาสที่จะได้เล่นเกม Final Fantasy 7 Remake แล้ว โดยจากข่าวก่อนหน้านี้ ที่บอกว่าตัวเกมมียอดผู้เล่นสูงถึง 2.3 ล้านคนในเวลาไม่กี่วัน ก็บ่งบอกได้เป็นอย่างดีว่าเกมเมอร์รอการมาของเกมนี้มากขนาดไหน และวันนี้ก็มีอีกหนึ่งข่าวที่ยืนยันสิ่งนั้นครับ ล่าสุดได้มีการประกาศออกมาผ่านทาง Twitter ของ Final Fantasy VII Remake แล้วว่า ตัวเกมนั้นสามารถขายได้สูงถึง 3.5 ล้านชุดโดยใช้เวลาแค่ 3 วันเท่านั้น ไม่แน่ใจเหมือนกันว่า เพราะมีแผ่นหลุดออกมาก่อนในบางพื้นที่รึเปล่า ตัวเกมถึงได้มียอดขายที่สูงมากๆ ขนาดนี้ แต่ผมเชื่อว่าต่อให้ไม่มีแผ่นหลุดออกมาก่อนเลย ตัวเกมก็น่าจะขายได้ประมาณนี้อยู่ดี นอกจากนี้ยอดขาย 3.5 ล้าน ในเวลา 3 วัน ยังเป็นสถิติใหม่ของเกม PlayStation 4 Exclusive ที่ขายได้เยอะที่สุดอีกด้วย (ก่อนหน้านี้เป็นเกม Spider-Man ทำยอดขายได้ 3.3 ล้านชุดในเวลา 3 วัน) เราคงสามารถพูดได้อย่างเต็มปากแล้วว่า FF7 Remake เป็นเกมที่ประสบความสำเร็จครับ Final Fantasy 7 Remake วางจำหน่ายแล้ววันนี้บนเครื่อง PS4 เท่านั้น https://twitter.com/finalfantasyvii/status/1252583111390408706?ref_src=twsrc%5Etfw%7Ctwcamp%5Etweetembed%7Ctwterm%5E1252583111390408706&ref_url=https%3A%2F%2Fgamerant.com%2Ffinal-fantasy-7-remake-ps4-sales%2F Credit: GameRant ติดตามข่าวสารเกมต่างๆ ได้ที่

Final Fantasy 7 Remake เป็นเกมที่ใครหลายคนรอคอยอยู่อย่างแน่นอน และตัวเกมก็วางจำหน่ายมาได้เกือบจะ 1 อาทิตย์แล้ว ซังเกตุได้ว่าตอนนี้มีคอนเทนต์มากมายเลยที่เกี่ยวกับเกม FF7R ในโลกอินเตอร์เน็ต แต่เชื่อเถอะครับว่าเกมนี้เป็นที่นิยมมากกว่าที่คิดแน่นอน เพราะล่าสุดก็มีข่าวออกมาว่าตัวเกมนั้นมียอดผู้เล่นสูงถึง 2.3 ล้านคน ภายในเวลาแค่ 3 วันเท่านั้นครับ! จากรายงานของ Gamestat บ่งบอกได้เป็นอย่างดีเลยว่าเกมนี้เป็นที่นิยมมากขนาดไหน และไม่ใช้แค่นั้น เพราะ 2.3 ล้านคนในที่นี้ คือนับเฉพาะจำนวนคนที่ Online เท่านั้น ยังไม่นับจำนวนผู้เล่น Offline ที่ไม่รู้ว่ามีเท่าไหร่อีกด้วย ส่วนว่าเกมนี้มีคนให้ความสนใจจริงๆ เท่าไหร่กันแน่ คิดเดี๋ยวคงจะสามารถดูได้จาก ยอดขายของเกม ที่น่าจะมีการเปิดเผยเร็วๆ นี้ แต่ผู้เขียนคิดว่าน่าจะมากกว่า 10 ล้านไปแล้วครับ Final Fantasy 7 Remake วางจำหน่ายแล้ววันนี้บนเครื่อง PS4 เท่านั้น Credit: Gamingbolt ติดตามข่าวสารเกมต่างๆ ได้ที่

Final Fantasy 7 Remake วางจำหน่ายมาได้ 5 วันแล้ว ซึ่งต้องยอมรับเลยว่าการกลับมาของสุดยอดเกม JRPG นี้ทำให้เราเหมือนได้ย้อนกลับไปในช่วงวัยเด็กอีกครั้ง ทั้งยังมอบประสบการณ์แปลกใหม่ให้กับผู้เล่นเป็นอย่างมากด้วยเช่นกัน แต่จะมีสักกี่คนที่ได้มีโอกาสเป็นผู้ให้เสียงพากย์ของตัวละครหลักในเกมแบบนี้ แล้วยังมีโอกาสได้เล่นเกมดังกล่าวแล้วฟังเสียงพากย์ของตัวเองไปด้วย? อย่างน้อยวันนี้เราก็ได้เห็นสิ่งนั้นเกิดขึ้นกับผู้ที่เป็นคนให้เสียงพากย์ของตัวละคร Aerith แล้วครับ! Briana White คือชื่อของคนที่เป็นคนให้เสียงพากย์ภาษาอังกฤษของตัวละคร Aerith โดยตัวของเธอเองก็เป็นทั้ง YouTuber และ Twitch streamer ด้วย แน่นอนว่าเธอเองก็เป็นหนึ่งในคนที่เล่นเกม FF7R ด้วยเช่นกัน ซึ่งพอมาถึงฉากที่ Cloud ได้พบกับ Aerith ครั้งแรก เพียงแค่ได้ยินเสียงที่เธอเป็นคนพากย์เอง Briana ก็ได้ร้องไห้ออกมา รับชมภาพวินาทีสุดประทับใจได้ข้างล่างนี้เลยครับ Final Fantasy 7 Remake วางจำหน่ายแล้ววันนี้บนเครื่อง PS4 เท่านั้น https://twitter.com/TheStrangeRebel/status/1249894432976957440?ref_src=twsrc%5Etfw%7Ctwcamp%5Etweetembed%7Ctwterm%5E1249894432976957440&ref_url=https%3A%2F%2Fwww.ign.com%2Farticles%2Ffinal-fantasy-7-remake-watch-aerith-voice-actor-hear-herself-for-the-first-time Credit: IGN ติดตามข่าวสารเกมต่างๆ ได้ที่  

นี่คือบทที่สามกับการแปลคลิปวิดีโอ Inside ของเกม Final Fantasy VII Remake ที่ในครั้งนี้จะทำการเล่าถึงระบบการเล่นรูปแบบใหม่ของเกมสุดสมบูรณ์แบบที่แตกต่างจากภาคก่อนหน้าอย่างสิ้นเชิง แต่ก็ยังได้นำระบบเก่าอย่าง ATB (Active Time Battle) เข้ามาผสมผสานได้อย่างลงตัว นี่คือการเล่าจากผู้พัฒนาโดยตรง จะเป็นอย่างไรไปตามพวกเรา GameFever TH มาครับ อ่านตอนที่ 1 / อ่านตอนที่ 2 - ระบบการเล่นแบบดั้งเดิมของ Final Fantasy VII ฉบับดั้งเดิมนั้น เป็นระบบเลือกคำสั่งโจมตีแบบ Turn-Base แต่การเปลี่ยนแปลงเป็นระบบแอ็คชั่นใน Final Fantasy VII Remake นั้นถือว่าเป็นจุดเปลี่ยนแปลงที่ใหญ่มาก คุณ Yoshinori Kitase (Producer) ได้บอกว่าเขาต้องการให้ผู้เล่นได้รับประสบการณ์จากเกมเพลย์ในรูปแบบใหม่ ด้วยระบบการเล่นที่ทำให้รู้สึกถึงความพึงพอใจ และยังคงความเป็น RPG ด้วยระบบ ATB (Active Time Battle) ของตัวเกมต้นฉบับ ในการเลือกคำสั่งการกระทำเอาไว้ - คุณ Tetsuya Nomura (Director & Concept Design) บอกว่าเมื่อคิดถึงเกมที่จะทำให้ผู้เล่นได้รับประสบการณ์การเล่นมากที่สุด เขาก็พบว่าในปัจจุบันนี้มีผู้เล่นเกมแอ็คชั่นกันเยอะมากขึ้น ซึ่งความสำคัญของเกมแอ็คชั่นนั้นก็อยู่ที่การบังคับตัวละครแบบ Real-Time แต่สำหรับความเป็นเกม Final Fantasy ก็จำเป็นต้องมีเกจการกระทำต่างๆ โดยเฉพาะ Final Fantasy VII แล้วจะขาดเกจ ATB และระบบ Materia ไปไม่ได้เลย พวกเขาจึงได้นำสิ่งที่กล่าวไว้มาผสมกัน และปรับปรุงให้มีความสมดุลย์กับระบบการเล่นของเกมมากที่สุด - คุณ Teruki Endo (Battle Director) และคุณ Naoki Hamaguchi (Co-Director (Game Design Programing)) ซึ่งเป็นผู้รับผิดชอบในการดีไซน์เกมเพลย์ ได้กล่าวถึงการนำระบบการเลือกคำสั่งและระบบ ATB มาใช้ในปัจจุบัน ซึ่งระบบดังกล่าวนั้นมีอยู่ในเกมฉบับดั้งเดิม แต่เมื่อนำมาใช้กับเกมแอ็คชั่น จึงเป็นเป้าหมายแรกของพวกเขาที่ต้องคิดว่าจะทำยังไงให้เข้ากับสไตล์การเล่นของเกม และทำให้มีความทันสมัยโดยที่แฟนเกมรุ่นใหม่กับแฟนเกม RPG รุ่นก่อน สามารถเล่นเกมนี้ไปด้วยกันได้ - พื้นฐานของเกมแอ็คชั่นนั้นจะเห็นได้ว่ามีทั้งเรื่องของการควบคุมตัวละคร การหมุนมุมกล้องได้อย่างอิสระ หรือการกดปุ่มโจมตี แต่จุดที่ลำบากที่สุดนั้นคือการทำต้องกำหนดว่าตัวเกมนั้นจะมีความแอ็คชั่นถึงขนาดไหน และการใช้ ATB แบบไหนถึงจะรู้สึกสนุกที่สุด ซึ่งพวกเขาต้องทดลองสร้างศัตรูขึ้นมาหลายๆ แบบ เพื่อทดลองว่าเกมเพลย์นั้นสามารถเล่นได้กับศัตรูทุกแบบในเกมจริงๆ - คุณ Kitase เสริมว่าภายในเกมเพลย์ของ Final Fantasy VII Remake ที่เป็นเกมแอ็คชั่นนั้น เมื่อทำการเปิดเมนู Command แล้ว จะตัดเข้าสู่ระบบ Tactical Mode ซึ่งตัวเกมจะเข้าสู่ภาพสโลว์โมชั่นระหว่างการต่อสู้ เพื่อให้สามารถมีเวลาคิดและเลือกคำสั่งที่จะทำได้ นอกจากนี้ก็ยังมีโหมดการเล่นที่ชื่อว่า Classic Mode ที่ตัวละครจะทำแอ็คชั่นโจมตีแล้วให้ผู้เล่นได้เลือกคำสั่งเพิ่มเติม ซึ่งทั้งสองระบบนี้ทำมาเพื่อรองรับผู้ที่เล่นเกมแอ็คชั่นไม่เก่งนั่นเอง - อีกหนึ่งจุดเด่นที่ยังไม่หายไปใน Final Fantasy VII Remake ก็คือระบบ Limit Break หรือระบบท่าไม้ตาย ซึ่งเมื่อตัวละครได้รับความเสียหายที่มากพอจนทำให้เกจ Limit เต็ม ก็จะสามารถใช้ท่าโจมตีพิเศษของแต่ละตัวละครได้ได้ ส่วนระบบ Materia นั้นก็ได้ถูกพัฒนาขึ้น และมันยังได้มีการพูดถึงมากขึ้นในเนื้อเรื่องของเกมด้วย - คุณ Tomotaka Shiroichi และ คุณ Kosuke Sakane (Lead Battle Designer) ได้เล่าถึงจุดเด่นของการต่อสู้กับ Boss ในเวอร์ชั่น Remake ว่ามีอยู่ 2 อย่าง โดยอย่างแรกคือระบบ Phase ซึ่งเมื่อบอสถูกโจมตีจนได้รับความเสียหายไปถึงจุดหนึ่ง ก็จะมีคัตซีนเปลี่ยนเข้าสู่ Phase 1, 2, 3 ที่จะทำให้บอสเก่งขึ้นตามลำดับและเข้าสู่ช่วงไคลแม็กซ์ของการต่อสู้ และอีกส่วนที่สำคัญคือการสร้างบอสที่ตัวใหญ่ออกมาให้มีการเคลื่อนไหวได้อย่างเป็นธรรมชาติ ซึ่งมันจะทำให้ผู้เล่นรู้สึกดดันได้มากกว่าตัวเกมต้นฉบับที่เป็น Turn Base RPG และได้เรียนรู้วิธีการต่อสู้จากการเล่นจากการเคลื่อนไหวมากขึ้น - ระบบ Materia ยังมีความจำเป็นในการใช้ต่อสู้กับบอสมากขึ้น โดยมันจะทำให้ผู้เล่นได้ลองผิดลองถูกว่าการใช้ Materia แบบไหน ถึงจะเหมาะสมกับการเล่นและการสู้บอสแต่ละตัว ส่วนระบบ Summon หรือระบบอัญเชิญมนตร์อสูรนั้น คุณ Hidekazu Miyake (Cutscene Director) ก็ต้องคำนึงถึงการปรากฎตัวของมนตร์อสูรที่ออกมาในสถานที่ที่แตกต่างกันไป เพราะในขณะที่ตัวเกมต้นฉบับนั้นจะอัญเชิญมนตร์อสูรออกมาโจมตีเพียงครั้งเดียว แต่ในเวอร์ชั่น Remake มนตร์อสูรจะปรากฎตัวได้ทั้งในฉากที่มีพื้นที่แคบและพื้นที่กว้าง และมาต่อสู้กับบอสร่วมกับผู้เล่นด้วย - นอกจากระบบต่อสู้แล้ว ใน Final Fantasy VII Remake ก็ยังมีส่วนการเล่นอื่นๆ อย่างเช่น Sub-Quest หรือ Mini Game ที่คุณ Naoki ต้องคิดว่าเขาจะใส่ไปตรงส่วนไหนของเนื้อเรื่องโดยไม่ทำให้การดำเนินเนื้อเรื่องของเกมเสียไป ซึ่งมันจะมีช่วงที่ให้ผู้เล่นได้มีเวลาไปทำสิ่งเหล่านั้นอย่างอิสระ และได้พบกับความสนุกในเมือง Midgar ที่เพิ่มมากขึ้น ไม่แพ้จากในตัวเกมต้นฉบับเลย

Final Fantasy เป็นชื่อของเกม JRPG ที่อยู่คู่กับวงการเกมมาอย่างยาวนาน และหนึ่งในภาคซึ่งเรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในตำนานของซีรีส์อย่าง Final Fantasy 7 Remake กำลังจะวางจำหน่ายแล้วในวันพรุ่งนี้จริงๆ แล้วไม่ใช้เรื่องแปลกอะไรที่ถ้าเกิดว่าเนื้อเรื่องของแต่ละภาคนั้นจะมีคาวมเกี่ยวข้องกันไม่มากก็น้อย และวันนี้ก็มีคนที่พบอีกหนึ่งหลักฐาน ที่บอกว่า Final Fantasy 7 นั้นจริงๆ เป็นเรื่องราวหลังจาก Final Fantasy 10-2 หลายร้อยปีครับ! ถ้าย้อนกลับไปสักหน่อยในเกม Final Fantasy 10-2 นั้นเคยมีตัวละครหนึ่งที่ชื่อว่า Shinra ได้ค้นพบกับสถานที่หนึ่งซึ่งมาพลังงานชีวิตมหาศาลรั่วไหลออก ซึ่ง Yuna ที่เป็นนางเอกของภาค ก็เคยได้พูดไว้ว่า "แบบนี้เราก็จะสามารถสร้างเมืองที่ไม่มีวันหลับไหล ขึ้นมาในพื้นที่ดังกล่าวได้ มันสุดยอดไปเลย" รับชมวิดีโอดังกล่าวได้ข้างล่างนี้เลยครับ ในตอนแรกทุกคนก็มีคิดกันอยู่บ้างเหมือนกันครับ ว่าภาค 10-2 อาจเป็นเรื่องราวก่อนภาค 7 ก็เป็นได้ แต่ด้วยความที่ไม่มีหลักฐานอะไรมากไปกว่านี้ทำให้ผู้เล่นคิดว่า "คงเป็นแค่หนึ่งใน Easter Egg ที่ผู้พัฒนาใส่เอาไว้เฉยๆ" แต่ว่าใน Final Fantasy 7 Remake บริเวณภายในของบริษัท Shinra มีคนพบรูปภาพเก่าๆ ที่เหมือนถูกถ่ายเอาไว้เมื่อนานมาก่อนถูกติดไว้บนผนังของบริษัท ซึ่งชายที่นั่งอยู่ตรงกลางของรูปภาพดันไปมีหน้าตาเหมือนกับตัวละคร Shinra ในภาค 10-2 พอดี แถมชื่อของบริษัทก็ดันเป็น Shinra อีก แบบนี้ก็ไม่รู้แล้วเหมือนกันครับว่าสรุป ภาค 7 เป็นเหตุการที่เกิดขึ้นหลังภาค 10-2 จริงๆ หรือเป็นอีก 1 Easter Egg ที่ผู้พัฒนาใส่มากันแน่ แน่นอนว่าคุณ Nojima ที่เป็นผู้เขียนเนื้อเรื่องไม่ได้พูดอะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้เลย แต่ถ้าเกิดว่า Final Fantasy 7 เป็นภาคต่อของ Final Fantasy 10-2 จริง ดูจากความเก่าของรูปแล้ว FF7 คงเป็นเหตุการในอีกหลายร้อยปีหลังภาค 10-2 แน่นอนครับ Final Fantasy 7 Remake จะวางจำหน่ายในวันที่ 10 เมษายน 2020 นี้บนเครื่อง PS4 เท่านั้น Credit: VG247 ติดตามข่าวสารเกมต่างๆ ได้ที่

ช่วงนี้มีกระแสการนำเกมเก่ามาทำการ Remake ให้ภาพมีความทันสมัยขึ้น ให้มีรูปแบบการเล่นที่เข้าถึงง่ายขึ้น ซึ่งในตอนนี้เกมที่ทำภาค Remake ล่าสุดมี 2 เกม คือ Final Fantasy 7 และ Resident Evill 3  แต่ 2 เกมนี้ควรซื้อเกมไหม? เกมไหนน่าซื้อกว่ากัน? วันนี้เราจะมาหาคำตอบด้วย 3 หัวข้อ คือ เนื้อเรื่อง / รูปแบบการเล่น และความคุ้มค่าในการซื้อแต่ละเกม พร้อมแล้วก็เลื่อนลงไปอ่านต่อได้เลย! 1.ด้านเนื้อเรื่อง -Final Fantasy 7 Mako เป็นพลังงานสำคัญที่เป็นเหมือนเส้นเลือดใหญ่ของโลก และเป็นเชื้อเพลิงที่ให้พลังแก่เมืองมิดการ์ ด้วยการใช้ประโยชน์จากทรัพยากรนี้ผ่านเครื่องปฏิกรณ์ Mako จึงทำให้บริษัทไฟฟ้า Shinra มีอำนาจควบคุมโลกทั้งใบ กลุ่ม ragtag ของนักอุดมคตินิยมนามว่า Avalanche เป็นหนึ่งในป้อมปราการสุดท้ายของการต่อต้าน Cloud ทหารรับจ้างฝีมือดีได้เข้าร่วมในปฏิบัติการบุกโจมตี เพื่อทำลายเครื่องปฏิกรณ์ Mako หมายเลข 1 ในเมืองมิดการ์การระเบิดทำให้ทั้งเมืองตกอยู่ในความสับสนอลหม่าน และท่ามกลางความโกลาหลที่รุนแรง Cloud ก็ถูกรบกวนด้วยนิมิตของศัตรูที่ขมขื่นที่เคยเกิดขึ้นในอดีต หลังจากภาพหลอนจางหายไป เขาก็พบหญิงสาวคนหนึ่งกำลังขายดอกไม้ซึ่งได้ยื่นดอกไม้สีเหลือง 1 ดอกแก่เขา ในทันทีนั้นร่างของเงามากมาย ก็หมุนรอบตัวพวกเขา และนั้นจะเป็นอีกครั้งของจุดริ่มต้นเรื่องราวที่จะกำหนดชะตากรรมของโลกทั้งใบ -Resident Evill 3 ในช่วงภัยพิบัติเมือง Raccoon City ที่เป็นเมืองคู่กับซีรี่ส์เกม Resident Evill มาอย่างยาวนาน โดยภาค 3 นี้จะดำเนินเรื่องผ่าน จิล  วาเลนไทน์ ซึ่งเป็นหนึ่งในตัวละครจากเภาคต้นฉบับ กล่างถึงการกระทำที่โหดร้ายของอัมเบรลล่า ที่ก่อให้เกิดเหตุการณ์การทำลายล้างเมือง และการให้กำเนิดซอมบี้ จิลล์ และผู้เชี่ยวชาญของเธอจากกองกำลังหน่วย STARS ต้องทำงานเพื่อเปิดโปงความลับขององค์กรชั่วนี้ให้โลกได้รับรูป แต่สิ่งที่ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น เมื่อจิลและพรรคพสกได้ค้นพบความลับที่น่าตกใจของเมืองแห่งนี้ และพบศัตรูใหม่ที่ทรงพลังยิ่งกว่าศัตรูตัวไหนๆที่เคยพวกเขาเจอมา มันมีนามว่า Nemesis! -สรุป FF7 เป็นเกมที่มีเนื้อหาแฟนตาซี มีความแอ็คชั่น ความรักดราม่า มีความยาวของเนื้อหาเยอะมากทำให้คุณอินกับตัวละครและตัวเกม RE3 เป็นเกมที่มีเนื้อหาเน้นความน่ากลัว ลึกลับ ซ่อนปริศนา มีความยาวไม่ได้มากเหมือน FF7 แต่ใช้เนื้อหาอย่างคุ้มค่า และตัวละครก็ไม่ได้มีเยอะ แต่มีบทบาทสำคัญในทุกๆฉากที่ปรากฏตัวออกมา สรุป FF7 เหมาะกับผู้ที่ชอบเกมแนวโลกแฟนตาซีและเสพเนื้อเรื่อง/ตัวละคร ส่วนRE3 เหมาสำหรับผู้ที่ชอบเกมแนวสยองขวัญซอมบี้ แต่มีความแอ็คชั่นอยู๋ในตัวด้วย 2.ด้านเกมเพลย์ -Final Fantasy 7 ในภาคต้นฉบับเกมนี้จะเป็นมุมมองจากที่สูงและเป็นการต่อสู้แบบ Turn-Base ซึ่งความสนุกในรูปแบบการเล่นนี้ จะมีน้อยกว่าการต่อสู้แบบ Real-Time ดังนั้นในภาค Remake นี้หลายๆอย่างจะถูกเปลี่ยนแปลงให้ดูน่าติดตามมากชึ้น เช่น มุมมองเปลี่ยนเป็นบุคคลที่ 3 และการต่อสู้จะใช้รูปแบบ Real-Time ซึ่งทำให้มีความสนุก และท้าทายมากขึ้นเหมือน Final Fantasy ภาคใหม่ๆในปัจจุบัน -Resident Evill 3 เช่นเดียวกันเกมนี้ก็ในภาคต้นฉบับจะมีระบบการเล่นที่เข้าถึงยากระดับนึง และใช้มุมกล้องมุมสูง แถมยังล็อคการหมุนของกล้องทำให้แรกๆอาจจะมึนๆกับการหมุนตัวก่อนแล้วค่อยเดิน ผมคิดว่าพวกคุณก็เคยเจอปัญหาเดียวกันนี้แบบผม555 ในภาค Remake นี้ผู้พัฒนาได้เปลี่ยนจากใช้มุมสูง เป็น TPS ( มุมมองบุคคลที่ 3 ) และไม่ล็อคกล้องแล้วทำให้การเคลื่อนไหวต่างๆง่ายขึ้นทันตาเห็น รวมทั้งระบบการยิงยังง่ายขึ้นเหมือนภาค 2 Remake ที่ทำออกมาเมื่อไม่นานมานี้นั่นเอง -สรุป FF7 เปลี่ยนจากการต่อสู้แบบ Tuse-Base เป็น Action Real-Time และเปลียนภาพมุมกล้องจากมุมสูงไปเป็นมุมมองบุคคลที่3 ปรับให้มีการใช้คอมโบและสกิลมากขึ้น พูดสั้นๆว่าเน้นบู๊แหลก สาดสกิลคอมโบรัวๆครับ RE3 เปลี่ยนจากการใช้กล้องมุมสูงเป็นมุมมองบุคคลที่ 3 เช่นกัน และไม่มีการล็อคกล้องไว้ตามฉากนั้นๆเหมือนภาคต้นฉบับ เปลี่ยนเป็นให้กล้องติดตามผู้เล่นทำให้การควบคุมตัวละครง่ายขึ้นกว่าเดิมมาก และระบบการยิงก็ปรับปรุงให้ง่าย แต่สิ่งที่ท้าทายคือ จะมีกระสุนที่จำกัด และศัตรูที่ไล่คุณตลอดทั้งเกม! สรุป FF7 เหมาะสำหรับผู้ที่ชอบเกมแนว ARPG การใช้คอมโบ อัพเกรดสกิล เจอมอนส์เตอร์ตัวใหญ่ๆ ส่วนRE3 เหมาะสำหรับผู้ที่เกมแนว Action/Horror ชอบความท้าทาย ชอบการยิงและการหนีบ้างในบางจังหวะ. 3.ด้านความคุ้มค่า -Final Fantasy 7 ตอนนี้ในเว็บไซต์หลักมีอยู่ 2 ราคา คือ 1.แบบปกติราคา 1,790 บาท 2.แบบ Deluxe Edition ราคาอยู่ที่ 2,390 บาท ทั้ง 2 ราคานี้จะมีของแถมพิเศษในเกม โดยจะเปิดให้โหลดล่วงหน้า 2 วันก่อนเกมจะเปิดให้เล่นได้ในวันที่ 4 เมษายน 2020 นี้ -Resident Evill 3 สิ่งที่คุณจะได้รับคือ ตัวเกมเต็ม และ Resident Evil Resistance โหมดมัลติเพลย์เยอร์ไว้เล่นกับเพื่อนๆ 1 VS 4 โดยสามารถเล่นได้ในวันที่ 3 เมษายนปี 2020 นี้ และนี่คือทั้งหมดที่คุณจะได้รับ ในสตรีมมีราคาอยู่ที่ 1,809 บาท -สรุป ทั้ง 2 เกมมีราคาใกล้เคียงกันมาก และแต่ละเกมจะมีของแถมให้กับผู้ที่ทำการ Pro-Oder อย่าง FF7 ถ้าซื้อไปคุณจะได้ไอเทม และอุปกรณ์บางอย่างที่สามารถใช้ในตอนเล่นเกมได้ ส่วน RE7 จะแถมเกม Resident Evil Resistance สำหรับเล่นแบบ 1VS4 แนบมาด้วย ดังนั้นทั้ง 2 เกมถือว่าคุ้มค่าทั้งคู่ ตรงจุดนี้ผู้อ่านต้องตัดสินใจให้ดีว่าชอบเกมไหนมากที่สุด แต่ถ้าตัดสินใจไม่ได้ก็ซื้อทั้ง 2 เกมมาเลยครับ!555 ใครซื้อมาแล้วก็อย่าลืมมาอวดกันนะครับ.      

ใกล้เข้ามาเรื่อยๆ แล้วกับวันวางจำหน่ายของเกม Final Fantasy 7 Remake ซึ่งจากข่าวก่อนหน้านี้ก็ทำให้เรารู้แล้วว่าในช่วง 23 ปีที่ผ่านมา ตัวเกมนั้นได้เปลี่ยนแปลงไปมากน้อยขนาดไหน ไม่ว่าจะเป็นกราฟิกของเกม หรือ ระบบแบทเทิล วันนี้ก็ได้มีการปล่อยรูปภาพมากมายโชว์ ตัวละครเก่าๆ ในลุคใหม่ออกมามากมายเลยด้วย ซึ่งต้องยอมรับเลยว่าตัวละครต่างๆ มีความ สวยหล่อขึ้นอย่างมากเลยทีเดียวครับ ในรูปภาพชุดใหม่ที่ปล่อยออกมานั้น เป็นการโชว์ตัวละครต่างๆ จากทางฝั่ง Shinra ไม่ว่าจะเป็น Rufus ที่เป็นรองประธานของบริษัท, Reeve  หนึ่งในผู้บริหารของบริษัท และเป็นอีกหนึ่งตัวละครสำคัญประจำซีรีส์, Scarlet ผู้อำนวยการด่านอาวุธของ Shinra, ไอ้อ้วน Palmer และ Kyrie สาวน้อยจอมโกงประจำ Sector 5 เรียกได้ว่าแต่ละคนเปลี่ยนไปมากจริงๆ โดยเฉพาะ Scarlet กับ Kyrie รับชมรูปต่างๆ ดังกล่าวได้ข้างล่างนี้เลยครับ Rufus Reeve Scarlet Palmer Kyrie Credit: Siliconera ติดตามข่าวสารเกมต่างๆ ได้ที่  

ค่ายพัฒนาและผู้จัดจำหน่ายเกม Square Enix ได้เปิดเผยโฉมหน้าของชุดเพลงประกอบหรือ Soundtrack ของเกม Final Fantasy VII Remake ออกมาแล้ว โดยภายในชุดจะประกอบไปด้วยแผ่นซีดีเพลง 7 แผ่น รวมกันทั้งหมด 156 เพลง และจะมีแผ่น Bonus Track แยกอีก 1 เพลง (แผ่นแยก) พิเศษสุดสำหรับผู้ที่ซื้อชุดแรกๆ จะได้รับเซ็ต “Special Edit Version” ซึ่งจะมากล่องลายพิเศษที่ออกแบบมาจากดาบ Buster Sword ของตัวเอก Cloud Strife นั่นเอง ชุด Soundtrack นี้จะวางจำหน่ายในวันที่ 27 พฤษภาคมนี้ในราคา $77.77 (ราว 2,556 บาท) ผู้ที่อยากรีบจับจองก่อนเพื่อจะได้รับชุด “Special Edit Version” สามารถเข้าไปสั่งล่วงหน้าและดูรายชื่อเพลง (Track List) ได้ ที่นี่ เกม Final Fantasy VII Remake จะวางจำหน่ายในวันที่ 10 เมษายนนี้สำหรับ PS4 โดยเฉพาะ Credit: Siliconera ติดตามข่าวสารเกมต่างๆ ได้ที่

Inside Final Fantasy VII Remake” เป็นบทสัมภาษณ์ของผู้ที่อยู่เบื้องหลังการทำงาน ที่จะพาคุณไปพบกับเบื้องหลังของแนวคิดและจุดเริ่มต้นของ “Project Final Fantasy VII Remake” และใน EP.2 นี้จะเป็นการเล่าถึงเรื่องราวของเนื้อเรื่องของเกมและตัวละคร และเป็นอย่างไร ไปชมกันได้เลย !! ********** อ่าน EP.1 ********** - เรื่องราวของ Final Fantasy VII ได้เริ่มต้นขึ้นในเมือง Mindgar เมืองอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ที่บริษัท Shinra Company ได้ก่อร่างสร้างขึ้นมาเป็นเวลากว่า 30 ปี ด้วยการนำพลังงานมาโคมาใช้ในการเป็นพลังงานของเมือง ทำให้ประชาชนในเมืองได้อาศัยอยู่ภายใต้การปกครองของบริษัท Shinra มาอย่างยาวนาน ทว่า กลุ่มต่อต้านที่มีชื่อว่า Avalanche ได้ลุกขึ้นต่อสู้กับบริษัท Shinra ที่นำพลังของโลกมาใช้เป็นพลังงานมาโค และทำให้โลกใบนี้กำลังค่อย ๆ เสื่อมสลายลงอย่างช้า ๆ  โดยมีภารกิจในการระเบิดเตาพลังงานมาโคเป็นเป้าหมาย ทำให้อดีต Soldier ฝีมือดีอย่าง Cloud Stife ได้มาเข้าร่วมภารกิจ และเป็นจุดเริ่มต้นเรื่องราวทั้งหมดของเกม - เนื่องจาก Final Fantasy VII ได้วางจำหน่ายครั้งแรกบนเครื่อง PlayStation มานานถึง 23 ปี แล้ว ทำให้คุณ Yoshinori Kitase (Producer) ยอมรับว่าเขาเองก็ส่วนที่ลืมรายละเอียดเกี่ยวกับโลกของเกมไปบ้างแล้วเหมือนกัน แต่เขายังจำแก่นหลักของเรื่องที่มี Cloud เป็นตัวเอก และส่วนที่เกี่ยวข้องกับตัวละครอื่นอย่าง Aerith และ Tifa รวมถึงคู่ปรับตลอดกาลอย่าง Sephiroth ได้ดี ซึ่งพอตัวละครเหล่านี้ได้กลับมารวมตัวกัน เขาจึงต้องกลับหวนรำลึกทบทวนใหม่ถึงเรื่องราวทั้งหมดอีกครั้ง - ก่อนเริ่มทำ Project Remake คุณ Kitase ได้กลับไปลองเล่นตัวเกมต้นฉบับอีกครั้ง และเขาพบว่าเนื้อเรื่องใน Midgar นั้นค่อนข้างสั้นจนน่าตกใจมากทีเดียว ซึ่งมันสามารถใช้เวลาเพียง 7-8 ชั่วโมง ก็สามารถจบเนื้อเรื่องถึงตอนที่ออกจากเมืองมิดการ์ได้แล้ว ในฉบับรีเมคเขาจึงอยากให้ผู้เล่นได้รับประสบการณ์ที่มากขึ้น และได้คิดภาพของเมืองที่กว้างใหญ่เอาไว้ - ในฐานะที่เป็นผู้รับผิดชอบในการเขียนเนื้อเรื่องและบทของตัวละครแล้ว คุณ Kazushige Nojima (Story & Scenario) และ คุณ Motomu Toriyama (Co-Director (Scenario Design)) จึงได้พูดถึง Cloud ว่าเขาเป็นตัวเอกที่เท่ และยังมีฝีมือการต่อสู้ที่เก่งกาจ ทำให้เขาเป็นที่ชื่นชอบของผู้เล่นมากมาย และได้ไปปรากฎตัวในเกมอื่นอีกหลาย ๆ เกม - บทบาทของ Cloud นั้นถูกวางเอาไว้ตั้งแต่ตอนที่ยังเป็นเด็ก ซึ่งเขาเป็นเด็กธรรมดาที่อยากจะเป็นคนเก่งเหมือนกับคนอื่น ๆ เขาจึงได้ใฝ่ฝันที่จะออกจากหมู่บ้านไปเป็น Soldier ผู้เก่งกาจของบริษัท Shinra Company แต่เมื่อเกิดเหตุที่ทำให้เขาได้เลิกเป็น Soldier เขาก็ได้กลับมาพบเพื่อนสมัยเด็กอีกครั้ง - ในเกมต้นฉบับนั้น Cloud ได้มีการเขียนบทเอาไว้ให้เป็นตัวละครที่เท่และมีความสุขุม ซึ่ง Cloud จะไม่ใช่คนที่มีความสดใสหรือมีอัธยาศัยที่ดีเท่าไหร่นัก แต่ดูเหมือนเขาจะมีเรื่องที่คิดอยู่ในใจตลอดเวลา ส่วนในฉบับ Remake คุณ Nojima ก็อยากจะแสดงด้านที่ดู “ไม่เท่” ของ Cloud ให้เห็นมากขึ้นด้วย เพราะความจริงแล้ว Cloud เป็นคนที่อยากได้รับการยอมรับจากคนอื่น แต่เรื่องไหนที่เขาไม่รู้หรือไม่อยากทำความเข้าใจ เขาก็จะชอบพูดว่า “ไม่สนใจ” ออกมาเป็นประจำ ซึ่งการที่ไม่สนใจอะไรเลยนี้บางทีก็ทำให้แสดงด้านที่ดูไม่เท่เลยออกมา และเป็นความท้าทายของคุณ Nojima ในการที่เขาจะสามารถแสดงอารมณ์ความรู้สึกของตัวละครออกมาได้สมจริงอย่างที่ตั้งใจไว้หรือไม่ - ทางด้านตัวละครเอกหญิงอย่าง Tifa Lockhart เธอเป็นเพื่อนสมัยเด็กของคลาวด์ ซึ่งในอดีตนั้นเคยเกิดเหตุการณ์ที่พ่อของเธอถูกฆ่าและหมู่บ้านถูกทำลาย เธอจึงเป็นอีกคนหนึ่ง ที่เหมือนจะมีชีวิตอยู่ด้วยการแก้แค้น แต่อีกด้านหนึ่งนั้นเธอก็เป็นคนที่อ่อนโยนและมีความลังเลได้ง่าย ซึ่ง Tifa จะมีความรู้สึกที่สับสนไม่แน่ใจว่าการทำเรื่องที่รุนแรงแบบนี้จะเป็นสิ่งที่ดีแล้วจริง ๆ รึเปล่า ซึ่งเนื้อเรื่องภายในเกมจะได้เห็นช่วงที่เธอพูดคุยกับ Cloud และเผยเรื่องราวของการเป็นเพื่อนสมัยเด็กให้เห็นมากขึ้น - อีกหนึ่งในตัวละครหลักของเกมอย่าง Barret Wallace เขาเป็นคนที่มีความกระตือรือร้น และแสดงออกอย่างตรงไปตรงมามาก ซึ่งเขาเป็นหัวหน้าของกลุ่ม Avalanche และมีหัวใจที่เร่าร้อนพร้อมมีคำพูดที่จะปลุกใจในการทำเป้าหมายได้ดีอยู่เสมอ จึงทำให้สมาชิกในกลุ่มต่อต้านอยากคอยติดตามสนับสนุนเขาไปด้วย - ทางด้าน Aerith Gainsborough พวกคุณ Nojima ก็บอกว่ามีเรื่องที่ยังไม่สามารถพูดถึงได้อยู่ในตอนนี้อยู่อีกมาก ซึ่ง Aerith นั้นมีอดีตที่ลึกลับ ทำให้ชีวิตในวัยเด็กของเธอส่วนใหญ่นั้นจะอยู่กับการที่ถูกขังอยู่ในห้อง แต่เธอก็เป็นคนที่ดูมีความอิสระ ทำอะไรตามใจ และยังมีจิตใจดีต่อผู้อื่น เรียกได้ว่า Aerith เป็นคนที่ให้ความสำคัญกับชีวิตมากทีเดียว แต่เนื่องจากเธอมีพลังพิเศษบางอย่างอยู่ จึงทำให้เธอคอยถูกตามล่าตัวจาก Shinra Company - นอกจากเหล่าบรรดาตัวละครหลักแล้ว ก็ยังมีตัวละครอื่น ๆ ที่มีบทบาทมากขึ้นในตัวเกมฉบับ Remake อย่างสมาชิก Avalanche ทั้ง 3 คนอย่าง Biggs, Wedge, และ Jessie โดยพวกเขาจะมีบทบาทกับ Cloud และช่วยทำให้เรื่องราวใน Midgar มีความสดใหม่ที่ไม่เคยเห็นมาก่อนมากขึ้น - ส่วนตัวร้ายประจำภาคอย่าง Sephiroth เขาเป็น Soldier ที่ถูกเรียกว่าวีรบุรุษในตำนาน และเป็นคนที่ Cloud ใฝ่ฝันอยากจะเป็น แต่เมื่อเกิดเรื่องราวบางอย่างขึ้นเขาก็ได้หายตัวไป ซึ่งบทบาทในฉบับ Remake ของเขาจะเป็นยังไงนั้น คงต้องให้ผู้เล่นได้ติดตามกันในเกมด้วยตัวเอง - Final Fantasy VII Remake นั้นมาพร้อมกับกราฟฟิคและเสียงพากย์เต็มรูปแบบ ซึ่งในตัวเกมต้นฉบับนั้นไม่เคยมีเสียงพากย์มาก่อน ทำให้คุณ Nojima อยากจะแก้ไขปรับเปลี่ยนบทพูดใหม่ทั้งหมด เพื่อให้ตัวละครได้มีการแสดงออกที่สมจริงมากขึ้น แต่ก็ยังคงความเป็นตัวละคนที่มีเสน่ห์เหมือนกับต้นฉบับเอาไว้ - คุณ Toriyama ได้เสริมว่าตัวเกมในสมัยก่อนนั้นจะไม่มีเรื่องของการใช้มุมกล้อง หรือการแสดงออกทางสีหน้าในการเล่าเรื่องเหมือนกับสมัยนี้ ในคราวนี้ที่มีการใส่เสียงพากย์ให้ตัวละครมีชีวิตและมีความสมจริงมากขึ้น จึงมีความแตกต่างกับเกมสมัยก่อนเป็นอย่างมาก ยกตัวอย่างเช่น ถ้าหากเป็นฉากหน้าจอดำที่มีแต่บทพูดเพียงอย่างเดียว ถ้าเป็นเมื่อก่อนหากไม่ใส่ชื่อเอาไว้ก็จะไม่รู้ว่าใครเป็นคนพูด แต่เมื่อมีเสียงพากย์แล้วก็จะรู้ได้ในทันที เขาจึงต้องพยายามหาทางเล่าเรื่องในส่วนนี้ให้มีเสน่ห์เหมือนกับต้นฉบับด้วย - เนื้อเรื่องหลักของเกมในฉบับ Remake จะยังคงดำเนินเรื่องเหมือนกับต้นฉบับ แต่จะมีการเพิ่มฉากใหม่ ๆ หรือส่วนที่เพิ่มเติมเข้ามาอยู่มากมาย ไม่ว่าจะเป็นความสัมพันธ์ของ Cloud กับตัวละครอื่น ๆ ที่ถูกเพิ่มเข้ามา และอยากให้ผู้เล่นได้ติดตามกัน - ในการทำงานนั้น มี Staff หลายคนที่เข้ามาทำงาน เพราะประทับใจจากการที่เคยเล่นเกมต้นฉบับมาก่อน แต่พวกคุณ Nojima ก็คิดว่าต่อให้เป็นผู้เล่นที่ไม่เคยเล่นเกมต้นฉบับมาก่อนก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร เพราะระบบการเล่นของเกมก็เป็นระบบแบบใหม่แทบทั้งหมด เนื้อเรื่องเองก็สามารถติดตามทำความเข้าใจได้ง่าย ส่วนแฟน ๆ ที่เคยติดตามเกมต้นฉบับมาก่อน เขาก็รู้สึกดีใจมากที่ยังมีผู้เล่นบอกว่าชื่นชอบเรื่องราวที่เขาเคยเขียนเอาไว้เมื่อ 20 ปีก่อนจนถึงทุกวันนี้ คุณ Nojima จึงรู้สึกตื่นเต้นและให้ความสำคัญกับความรู้สึกแฟน ๆ ในการเขียนเรื่องราว Remake มากเช่นกัน - คุณ Kitase ตั้งเป้าหมายเอาไว้ว่าอยากให้คนที่ไม่เคยเล่นเกมต้นฉบับมาก่อน ได้รับประสบการณ์ใหม่ ๆ  จากการ Remake และได้พบเรื่องราวที่น่าตกใจจากความเป็น Final Fantasy VII แบบดั้งเดิม ซึ่งมันมีความสนุกอยู่มากมาย ทั้งการได้รับรู้ความรู้สึกของพวก Cloud การได้ผจญภัยในโลกของ Midgar และการต่อสู้กับ Shinra ส่วนคนที่เคยเล่นมาก่อนแล้วก็จะได้สนุกกับเนื้อเรื่องฉบับดั้งเดิม ที่ได้ถูกนำมาเล่าในแบบใหม่อีกครั้ง และได้พบกับสิ่งใหม่ ๆ ที่เพิ่มเข้ามา คุณ Kitase จึงคาดหวังว่าผู้เล่นแต่ละคนจะได้รับความสนุกที่แตกต่างกันไป ซึ่งอยู่ใน Final Fantasy VII Remake นี้

เป็นเรื่องธรรมดาสำหรับเกมฟอร์มยักษ์ที่จะมาพร้อมกับสินค้า เกี่ยวกับเกมนั้นมากมาย ยิ่งเกมที่มีคนให้ความสนใจมากๆ ทั้งยังเป็นเกมที่มีฐานแฟนคลับหนาแน่นอย่าง Final Fantasy 7 Remake ด้วยแล้ว ยิ่งไม่ใช้เรื่องแปลกอะไร โดยก่อนหน้านี้เราก็ได้เห็นสินค้าของ FF7 Remake ไปแล้วมากมาย ไม่ว่าจะเป็น นาฬิกา, สร้อยคอ, กระเป๋า หรือว่า แผ่นฝาของเครื่อง PS4 วันนี้ Square Enix ก็ได้ทำการเปิดตัวสินค้าอีก 1 ตัว นั้นก็คือชุดแผ่น CDs รวมเพลง Soundtrack ของเกมในราคา $77.77 ครับ ชุดแผ่นเพลง Soundtrack ดังกล่าวมีด้วยกันทั้งหมด 7 แผ่น ซึ่งตอนนี้หน้าเว็บไซต์ Square Enix Store ก็ได้มีการวางสินค้าแล้วในราคา $77.77 (ราคา 7,777 Yen ในประเทศญี่ปุ่น) ไม่ใช้เรื่องแปลกอะไรที่เกมฟอร์มยักษ์อย่าง FF7 Remake ที่จะมีเพลง Soundtrack ของเกมเยอะมากๆ จนถึงขนาดต้องใช้แผ่น CDs ถึง 7 แผ่น โดยตัวผู้เขียนเองก็คิดว่าเพลงต่างๆ ในเกมภาคนี้ต้องมีความไพเราะมากอย่างแน่นอน เพราะเพลงประกอบใน Theme Song Trailer นั้นมันฟังแล้วสบายหูมากๆ เลยครับ Credit: Siliconera ติดตามข่าวสารเกมต่างๆ ได้ที่

Final Fantasy 7 Remake กำลังจะวางจำหน่ายในอีกประมาณ 2 อาทิตย์ต่อจากนี้ แน่นอนว่าการมาของ FF7 Remake ในครั้งนี้ทำให้เหล่าแฟนเกมเก่าๆ รวมไปจนถึงผู้เล่นหน้าใหม่ ตื่นเต้นไปตามๆ กัน แต่ก็คงจะมีอยู่ไม่น้อยเช่นกัน ที่จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่มีเครื่อง PS4 เลย ทาง Sony เองก็เหมือนจะรู้ถึงเรื่องนี้เช่นกัน ล่าสุดจึงได้มีการประกาศเปิดตัวแพ็คตัวเครื่อง PS4 พร้อมกับแผ่นเกม! โดยแพ็คเกจดังกล่าวนั้นมีให้เลื่อกซื้อทั้งแบบเครื่อง PS4 ธรรมดา (HDD 500 GB) สำหรับคนที่ต้องการประหยัดเงิน และแบบเครื่อง PS4 Pro (HDD 1 TB) สำหรับคนที่ต้องการเครื่องซึ่งมีศักยภาพสูงสุด โดยทั้ง 2 แพ็คเกจนั้นเปิดตัวในราคา 29,980 Yen และ 39,980 Yen ตามลำดับ (ราคาดังกล่าวยังไม่รวมภาษี) นอกจากนี้แพ็คเกจทั้งสอง ยังแถม Dynamic Theme ของ Cloud มาด้วย คิดว่าแพ็คเกจดังกล่าวคงจะมีให้ซื้อในไทยด้วยเช่นกัน ท่าใครสนใจก็ลองติดต่อร้านตัวแทนจำหน่ายใกล้บ้านดูครับ Credit: Siliconera ติดตามข่าวสารเกมต่างๆ ได้ที่  

Final Fantasy 7 Remake กำลังจะวางจำหน่ายแล้วในอีก 2 อาทิตย์ต่อจากนี้ ซึ่งเพื่อเป็นการโหนกระแสอย่างต่อเนื่อง ทางผู้พัฒนาก็ได้ทำการปล่อยรูปภาพ Screenshots ของเกมออกมามากมาย และตอนนี้เองตัวเกมก็อยู่ในสถานะ Gone Gold เป็นที่เรียบร้อยแล้ว นั้นจึงหมายความว่าจะไม่มีการเลื่อนวันวางจำหน่ายของเกมออกไปอีกแล้ว แต่ในข่าวดีทั้งหมดนั้นก็ดูเหมือนจะมีข่าวร้ายอยู่เช่นกันครับ ล่าสุดก็มีประกาศออกมาจากผู้พัฒนาว่า "ในวันที่เกมวางจำหน่าย แผ่น Final Fantasy 7 Remake อาจจะขาดตลอดได้" Official Twitter ของ Final Fantasy 7 Remake ได้ทำการปล่อยข้อความใหม่พร้อมรูปภาพที่บอกว่า "เนื่องด้วยปัญหาการระบาดของ COVID-19 ทำให้พวกเราไม่สามารถผลิตแผ่นเกม FF7 Reamke เป็นจำนวนมากได้ในตอนนี้ สำหรับคนที่ซื้อเกมในรูป Digital นั้นไม่ต้องกังวลไป ส่วนสำหรับคนที่สั่งซื้อแบบ Physical Edition เราจะพยายามอย่างเต็มที่ เพื่อให้ทุกคนได้สัมผัสเกมนี้อย่างแน่นอน" มาถึงจุดนี้คงต้องยอมรับว่า COVID-19 ทำเอาปั่นป่วนทั้งวงการจริงๆ ครับ Final Fantasy 7 Remake จะวางจำหน่ายในวันที่ 10 เมษายน 2020 นี้บน PS4 เท่านั้น Credit : Gamingbolt ติดตามข่าวสารเกมต่างๆ ได้ที่  

อีกไม่ถึง 3 อาทิตย์แล้วก่อนที่เกม RPG ระดับตำนานเวอร์ชั่น Remake อย่าง Final Fantasy 7 จะวางจำหน่าย คิดว่าตอนนี้หลาย ๆ คนคงตื่นเต้นขนาดกาปฏิทินรอกันแล้ว ซึ่งต้องยอมรับว่าตอนแรกก็ตื่นเต้นมากๆ อยู่แล้ว ยิ่งทางผู้พัฒนาทำการปล่อยทั้งวิดีโอ ทั้งภาพ ทั้งข้อมูล ออกมามากมายขนาดนี้ ก็ยิ่งทำให้เราอยากเล่นเกมนี้มากขึ้นไปอีก และวันนี้การยั่วเหล่านั้นก็ยังไม่จบครับ เพราะล่าสุดก็มีการปล่อยภาพ Screenshots ของเกมออกมาอีกแล้ว แถมยังมาเป็นชุดใหญ่เลยด้วย! รูปภาพทั้งหมดนั้นถูกปล่อยออกมาจากเว็บไซต์ Official ของ Final Fantasy เองเลย ซึ่งภาพชุดใหญ่ที่ปล่อยออกมานี้ มีทั้งภาพของตัวละครเก่า และใหม่ที่มีอยู่ในเกม ภาพของสถานที่ต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น Wall Market, Corneo Colosseum, The Honeybee Inn หรือ Beginner’s Hall อีกทั้งยังมีการเปิดเผยระบบใหม่ Jukebox กับ มนต์อสูร Leviathan สามารถดูรูปต่าง ๆ ได้ข้างล่างนี้เลยครับ Tseng Tseng เป็นหัวหน้าของหน่วย The Turks ที่เป็นเหมือนกับหน่วยลับของบริษัท Shinra หน่วยนี้มีหน้าที่ทำทุกอย่างตามที่บริษัทต้องการ ตั้งแต่สอดแนม หาข้อมูล หรือลอบสังหาร Don Corneo ผู้ปกครองเขต Wall Market เป็นตัวละครที่บ้าผู้หญิงมาก ทั้งยังเป็นคนที่ทำธุรกิจผิดกฏหมายมากมายอีกด้วย Andrea Rhodea ผู้เป็นทั้งเจ้าของ และนักเต้นที่ The Honeybee Inn มีนิสัยแบบ Perfectionism ทั้งยังเป็นคนที่จับ Cloud แต่งหญิงอีกด้วย Leslie Kyle ลูกขุนของ Don Corneo ด้วยนิสัยที่ไม่เย็นชา และดวงตาที่สุขุมเยือกเย็นทำให้เขา เป็นลูกน้องคนโปรดของ Don Corneo Madam M เจ้าของกิจการร้านนวดมือใน Wall Market เป็นหนึ่งในผู้ทรงอิทธิพลภายในเขต เป็นคนมีความภาคภูมิใจในตัวเองสูง Chocobo Sam ตามชื่อเลยครับ เขาก็คือนักฝึก Chocobo ในเขต Wall Market ทั้งยังเป็นเจ้าของกิจการ Sams Delivery อีกด้วย Barret in Battle ภาพต่อจากนี้ จะเป็นการโชว์ฉากการต่อสู้ รวมไปจนถึงสกิลต่าง ๆ ของ Barret ซึ่งเขามาท่าโจมตีระยะไกลที่รุนแรงมาก ๆ ชื่อว่า “Overcharge” อยู่ แต่ก็ต้องแลกมากับ Cooldown ของสกิลที่นาน ซึ่งผู้เล่นสามารถยนระยะเวลาได้ด้วยการกดปุ่มสามเหลี่ยมครับ เขต Wall Market Corneo Colosseum The Honeybee Inn Tifa และ Aerith ในชุดราตรี Beginner’s Hall Jukebox เป็น Feature ใหม่ที่เพิ่งถูกเพิ่มเข้ามาในเวอร์ชั่นนี้ บริเวณต่าง ๆ ในเมืองจะมีเพลงพิเศษของแต่ละพื้นที่อยู่ ผู้เล่นสามารถหาซื้อแผ่นเพลงเหล่านั้นได้ตามจุดต่าง ๆ ในเมือง และเอามาเปิดฟังได้ที่ Junkbox มนต์อสูร Leviathan ปิดท้ายด้วยอีกหนึ่งมนอสูรที่มีให้เห็นแทบทุกภาคของ Final Fantasy ต้องรอดูว่าภาคนี้จะต้องทำยังไงถึงจะได้มาครับ Credit : Gamingbolt ติดตามข่าวสารเกมต่างๆ ได้ที่

อีกไม่กี่อึดใจแล้วจริงๆ กับการมาถึงของเกม Final Fantasy 7 Remake เกมที่ผู้เล่นหลายคนเฝ้ารอคอยที่จะได้สัมผัส ที่มีกำหนดวางจำหน่ายวันที่ 10 เมษายนที่กำลังจะถึงนี้ หลังจากที่ปล่อยเดโมเกมสั้นๆ ออกมาให้ชาว PS4 ได้ทดลองระบบต่อสู้ของเกมไปเมื่อเร็วๆ นี้ (อ่านความรู้สึกจากการเล่นเดโม ที่นี่) ล่าสุดทางผู้พัฒนา Square Enix ก็ได้ปล่อยวีดีโอสารคดีตัวใหม่ "Inside Final Fantasy 7 Remake"  ที่จะพาผู้ชมไปสู่เบื้องหลังของการสร้างเกม โดยในตอนแรกสุดนี้ (ความยาวราว 20 นาที) จะเน้นไปที่การแนะนำเหล่าผู้พัฒนามากฝีมือของ Square Enix ที่ร่วมกันสร้างเกมนี้ขึ้นมา รวมไปถึงแรงบันดาลใจในการทำงานของพวกเขา และแน่นอนว่ายังมีการแสดงเกมเพลย์ทั้งเก่าและใหม่ได้รับชมกันอีกด้วย Final Fantasy 7 Remake จะวางจำหน่ายในวันที่ 10 เมษายนนี้สำหรับ PS4 เท่านั้น Credit: Gaming Bolt ติดตามข่าวสารเกมต่างๆ ได้ที่

คุณเคยมีเพื่อนที่สร้างความประทับใจให้ไม่รู้ลืม ไม่ว่าจะผ่านเวลามานานขนาดไหนหรือเปล่า? สำหรับผู้เขียน … ย้อนเวลากลับไปเมื่อ 23 ปีที่แล้ว ในวันศุกร์ที่ 31 มกราคม 1997 ด้วยวัย 12 ขวบ ที่ยอมลาเรียน รบเร้าคุณพ่อให้พาไปต่อคิวหน้าศูนย์โซนีสาขาเดอะมอลล์งามวงศ์วาน ที่เต็มไปด้วยผู้คนที่มาด้วยจุดมุ่งหมายเดียวกัน อันช่วงเวลาที่สำคัญที่สุดในชีวิต มันเป็นวินาทีที่พิเศษที่สุด ที่ผลจากความพยายามเก็บเงินข้ามปี จำนวน 2180 บาท กำลังจะออกดอกผล เป็นแพ็คเกจแผ่นเกมเครื่องเล่น Playstation ใหม่ล่าสุด ที่มีชื่อว่า …. Final Fantasy VII จากวันที่ได้รับแผ่น ผู้เขียนเล่นมันอย่างไม่ลืมหูลืมตา แม้ว่าจะไม่เข้าใจภาษาญี่ปุ่นที่ปรากฏขึ้นมาบนหน้าจอโทรทัศน์แม้แต่ตัวเดียว เฝ้าเสาะแสวงหาบทสรุปของสำนักพิมพ์ต่างๆ มาประกอบการเล่น เล่นจบแล้วก็เล่นซ้ำไปมา เป็นห้วงเวลาที่มีความสุขที่สุด ที่ได้ใช้ร่วมกันกับ ‘เพื่อน’ ผู้นี้ และเป็นสิ่งที่กำหนดตัวตน และความเป็น ‘คนเล่นเกม’ ของผู้เขียนมานับตั้งแต่นั้น…. เวลาผ่านไป 23 ปีมาจนถึงปัจจุบัน ที่ผู้เขียนเป็นชายวัยเกือบกลางคน ผ่านร้อนผ่านหนาวมาหลายพรรษา ผ่านชิ้นงานเกมหลากหลายแนวมานับไม่ถ้วน ได้เห็นวัฏจักรการเกิดดับของแต่ละ Cycle ของแวดวง และได้รับทราบถึง ‘การกลับมา’ ของเพื่อนคนเก่า ที่มาในรูปโฉมใหม่ มันอดที่จะรู้สึกตื่นเต้นไปด้วยไม่ได้ มันเป็นความตื่นเต้น อันเกิดจากความอยากรู้อยากเห็น ว่าเวลากว่าสองทศวรรษที่ผ่านไป ‘เพื่อน’ คนนี้ จะยังคงน่าสนใจแค่ไหน และมีเรื่องราวใดที่จะมาบอกกล่าวกันกับผู้เขียน เรานัดเจอกันในเย็นย่ำวันธรรมดาหลังเลิกงาน เฝ้ารอให้เพื่อนเดินทางมาสถิตอยู่ในเครื่อง Playstation 4 Pro ใช้เวลาเพียงไม่นาน ‘เพื่อนเก่า’ ใน ‘โฉมใหม่’ ก็ได้มาอยู่ต่อหน้า พร้อมสำหรับการพูดคุยสนทนาวิสาสะกัน และนี่ คือการสนทนาของผู้เขียน กับ ‘เพื่อน’ คนนี้ … รูปลักษณ์ สุ้มเสียง สำเนียงที่เปลี่ยนไป ในเรื่องราวเก่าแก่ที่บอกกล่าวกันใหม่ตามช่วงเวลา เราเริ่มต้นทักทายกันด้วยความทรงจำและเรื่องราวเก่าเป็นบทเปิดโหมโรงพอเป็นพิธี แต่ก็สัมผัสได้ทันที ว่าเพื่อนผู้นี้ มีกลวิธีที่แตกต่างออกไปจากเดิม มันมีเสน่ห์มากขึ้นตามยุคสมัย แต่สามารถลงลึกถึงรายละเอียดเมื่อยี่สิบกว่าปีก่อนได้อย่างแม่นยำ ฉากที่เป็น Signature หลายช่วงถูกนำเสนอออกมาในรายละเอียดที่มากขึ้น ที่แม้แต่ผู้เขียนก็คาดไม่ถึง ว่าเรื่องราวในครั้งนั้น จะมีสิ่งละอันพันละน้อยปลีกย่อยที่น่าสนใจได้ถึงขนาดนี้ มันช่วยเติมรสชาติที่แปลกใหม่ แต่ก็ยังมีความชวนให้หวนอาลัยต่อความทรงจำที่เคยได้รับมาในสถานการณ์เดียวกัน ดวงตาของผู้เขียนเป็นประกายราวกับเด็กที่ได้ของเล่นใหม่ เหมือนได้ย้อนกลับไปยังวันเวลาเก่าก่อนอีกครั้ง ‘เพื่อน’ ไม่รอช้า เข้าสู่บทโหมโรงของเรื่องราวแห่ง Cloud Strife ทหารรับจ้าง กับภารกิจร่วมกับกลุ่ม Avalanche ในการทำลายเตาปฏิกรณ์ Mako ของบรรษัทยักษ์ใหญ่ Shinra Company แน่นอนว่านี่ เป็นเรื่องเก่า แต่ก็เป็นเรื่องเก่าที่น่าคิดถึง และยิ่งมาในรูปโฉมใหม่ด้วยแล้ว ก็ยิ่งทำให้ความน่าสนใจในการสนทนาครั้งนี้ เพิ่มสูงขึ้นอีกเป็นเท่าตัว ตัวละครประกอบอย่างแก๊งส์ร่วมขบวนการอย่าง Biggs, Wedge และ Jessie ถูกขับเน้นให้มีตัวตน มีบุคลิก และ ‘มีความสำคัญ’ ดังที่เพื่อนได้กล่าวกับผู้เขียนว่า เรื่องราวถัดจากนั้น จะยิ่งเข้มข้นและลงลึกในรายละเอียดมากยิ่งขึ้น (และอาจจะดึงดราม่าเรียกน้ำตากันได้ง่ายๆ...) ผู้เขียนพอจะทราบมาบ้างแล้วว่า เพื่อนผู้นี้มีความพยายามที่จะตามยุคสมัยและเวลาที่เปลี่ยนไปให้ทัน นั่นทำให้สิ่งรกรุงรังอย่างการผลัดกันตีผลัดกันเดิน ถูกทดแทนด้วยบทแอ็คชันประยุกต์ผสมผสานโหมด Active Time Bar (ATB) แบบฉบับดั้งเดิมให้เป็นในส่วนของคอมมานด์ที่สามารถกดใช้ได้แทบจะทันที หรือจะกดใช้แบบกึ่งชะลอจังหวะการเล่นเพื่อดูภาพรวมของสมรภูมิก็สามารถทำได้ ทำให้การออกท่วงท่าต่างๆ เป็นไปอย่างเรียบเนียนไร้รอยสะดุด ช่วยให้การเล่นนั้นรวดเร็ว คมกริบ และง่ายต่อการเรียนรู้ เพียงแค่สองการปะทะ ผู้เขียนก็สามารถใช้มันได้อย่างคล่องแคล่วโดยแทบไม่ต้องมองจอยแพดที่อยู่ในมือ เขาบอกว่าเอาตัวอย่างบางส่วนมาจากภาค 15 เข้ามาปรับปรุง แต่ก็ยังเหลือเผื่อจังหวะให้ช้าลงเพื่อความสะดวกมากยิ่งขึ้น เป็นการประนีประนอมที่เข้าท่ามากๆ เพราะมันได้ทั้งความเร็ว และมิติทางการวางแผน อันเป็นมรดกสืบทอดจากช่วงเวลาอันแสนน่าคิดถึงเหล่านั้น ความรวดเร็วในการดำเนินเรื่องราวของเพื่อนยังคงไว้ซึ่งจังหวะอย่างต่อเนื่อง คลอไปด้วยดนตรีที่คุ้นเคย ไม่มีอีกแล้วกับการเดินในพื้นที่แล้วสู้กับศัตรูแบบสุ่ม ทุกอย่างถูกวางสคริปต์เอาไว้อย่างเหมาะเจาะ ทุกการปะทะถูกเตรียมพร้อมเอาไว้โดยมีเป้าประสงค์ที่ชัดเจน และเข้าถึงประเด็นได้โดยไม่ต้องเสียเวลาสาธยายความ แต่ไม่ละเลยซึ่งส่วนปลีกย่อยที่เล็กน้อยที่สุดอย่างการแสดงออกทางสีหน้าตัวละคร ท่วงท่าภาษากาย บทสนทนาตอบโต้ระหว่างกัน เป็นการบอกบุคลิกที่แตกต่างระหว่าง Cloud Strife และ Barret Wallace ในภารกิจทำลายเตาปฏิกรณ์ มันชัดเจน และขับเน้นตัวละครได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งหมดนี้ บ่งบอกถึงการคิดมาอย่างดี พ่วงด้วยประสบการณ์ที่สะสมตามเวลามานานปี ที่ผู้เขียนมั่นใจ ว่าจะสามารถจับหัวใจได้ทั้งเพื่อนเก่าแก่ท่านอื่น และผู้ที่รู้จักกับเขาเพียงครั้งแรก ดังเช่นที่ผู้เขียนได้เพลิดเพลินกับการปรับโฉมในรอบนี้ เรื่องราวการผจญภัยมาถึงปลายทาง ผ่านบทต่อสู้กับบอสประจำพื้นที่อย่างหุ่นยนต์ Scorpion Sentry หน้าเก่า ที่กลับมาอย่างเร้าใจ มันมีลูกเล่นที่มากมาย และซุกซ่อนกลเม็ดเด็ดพรายที่ทำให้การต่อสู้นั้นท้าทายและเป็นมากกว่าการเดินเข้าตีอย่างดาดๆ มันต้องใช้ความคิดที่มากขึ้น ใช้ทักษะที่มากขึ้น และที่สำคัญที่สุดคือ มันค่อนข้างจะเป็นการต่อสู้ที่ ‘ยาก’ เอาเรื่อง หลายครั้งที่ผู้เขียนเกือบจะพลาดพลั้งเสียที จนต้องเรียนรู้รูปแบบการโจมตีและท่วงท่าของมัน และเลือกใช้ความสามารถของสองตัวละครที่สลับผลัดเปลี่ยนในช่วงที่เหมาะสม จึงสามารถคว้าชัยชนะในการปะทะครั้งนี้ลงไปได้ ทั้งหมดนี้ ผู้เขียนเชื่อว่า คือสิ่งที่เพื่อนอยากจะบอกกล่าวตั้งแต่กาลก่อน แต่ไม่สามารถทำได้ ไม่ว่าจะด้วยข้อจำกัดของเทคโนโลยี หรือด้วยวัยที่ยังใหม่ต่อโลกกว้าง ที่วงการยังอยู่ในระยะตั้งไข่ก้าวเดินออกไปได้ไม่นานก็ตาม จุดสะดุดในเรื่องเล่า แต่ก็เช่นเดียวกับเรื่องเล่าในทุกเรื่อง การบอกเล่าของเพื่อนยังไม่ได้สมบูรณ์แบบจนถึงที่สุด ยังมีจุดที่ยังน่ากังขาอยู่ไม่น้อยที่ยังรอคอยคำตอบ ไม่ว่าจะด้วยมุมกล้องที่ใช้งานได้ไม่สะดวกมากนัก ไปจนถึงระดับความยากของการเล่นที่ค่อนข้างสวิงไม่คงที่ แต่นั่นก็เป็นเพียงความไม่สะดวกเพียงเล็กน้อย ที่ไม่ได้ขัดขวางซึ่งความสนุกที่พึงได้รับแต่ประการใด รูปแบบการบอกเล่า (การเล่น) ก็เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่เพื่อนผู้นี้กังวล อาจจะเพราะด้วยความที่เขามีคนที่รักอยู่มากมาย การเปลี่ยนแปลงสไตล์จากหน้ามือเป็นหลังมือเช่นนี้ อาจก่อให้เกิดกระแสวิพากษ์ได้ทั้งทางบวกและทางลบ แต่ก็เป็นความกังวลที่แฝงไปด้วยความมั่นใจในน้ำเสียงอยู่ไม่น้อย ว่าจะสามารถมัดใจผู้ที่เข้ามาพูดคุยได้อย่างอยู่หมัด มันบ่งบอกชัดผ่านการนำเสนอที่ทั้งนอบน้อมต่อความทรงจำเก่าของเรา และความพยายามที่ก้าวสู่อาณาเขตของความร่วมสมัยที่สามารถสัมผัสได้แม้จะเป็นช่วงเวลาสั้นๆ ก็ตาม อีกทั้งเพื่อนผู้นี้ออกตัวกับผู้เขียนเอาไว้แต่เนิ่นๆ ด้วยว่า เขาอาจจะไม่ได้มีความพร้อมที่จะบอกเล่าทุกเรื่องราวตั้งแต่ต้นจนจบไปถึงปลายทางดังที่เคยเป็น อาจจะเพราะมีหลายสิ่งที่ได้รับการเพิ่มเติมเข้ามา หลายอย่างที่ช่วงเวลาได้บ่งเพาะให้มีความละเมียดละไม และหลายจุดที่ไม่สามารถละสายตาไปได้ แต่นั่นไม่ใช่สาระเท่าใดในความรู้สึกของผู้เขียน มันออกจะเป็นความน่าลุ้นเสียด้วยซ้ำว่าด้วยพรรษาที่ผ่านไป เขาจะเพิ่มเติมส่วนประกอบอันใดเข้าไว้ในเรื่องราวแต่หนก่อน ให้มีเสน่ห์และรสชาติที่น่าลิ้มลองอีกครั้ง การเฝ้าคอย และนับถอยหลังสู่การพูดคุยครั้งสำคัญ ผู้เขียนและเพื่อนใช้เวลาร่วมกันในการสนทนาครั้งนี้ที่ 45 นาที เป็นเวลาที่ดูเหมือนจะนาน แต่ก็ผ่านไปอย่างรวดเร็วเกินกว่าใจคิด อดที่จะรู้สึกเสียดายไปไม่ได้ ที่การพบปะกันหลังเวลาผ่านไปกว่าสองทศวรรษจะต้องปิดฉากลงไปก่อนเป็นการชั่วคราว เพราะมันเป็นการพบกันที่น่าอภิรมย์ แม้จะเป็นช่วงสั้นๆ แต่ก็ทำให้เห็นว่า เพื่อนผู้นี้ มีดีมากกว่าที่คิด และมีดีมาตั้งแต่สมัยแรกเริ่มรู้จัก แม้เวลาจะผ่านไปกว่าสองทศวรรษ และยิ่งเปล่งประกายเมื่อได้รับการขัดด้วยกาลเวลา ก่อนจากกัน เราให้สัญญานัดแนะอย่างเป็นมั่นเหมาะ ว่าจะพบกันเพื่อพูดคุยอีกครั้ง ในวันที่ 10 เมษายน ที่จะมาถึงในอีกไม่กี่อึดใจนี้  แน่นอนว่าผู้เขียนเองก็อดใจแทบไม่ไหว ที่จะได้เปิดวงสนทนากับเพื่อนผู้นี้กันให้อย่างเต็มอิ่มชุ่มปอด สวมกอดด้วยมิตรภาพที่มีให้มาอย่างยาวนานนับแรมปี และมันคงจะเป็นสิ่งที่ทำให้ย้อนระลึกถึงความเป็นเด็กวัย 12 อีกครั้ง ในวันที่ได้พบเจอกัน เพราะช่วงเวลาที่แสนสุข และยอดเยี่ยม มันไม่เคยเกี่ยง ว่าจะกลับมาในรูปโฉมไหน หรือออกมาในรูปแบบใด แล้วคุณล่ะ มีเพื่อนแบบนี้อยู่ในความทรงจำบ้างหรือเปล่า?

Final Fantasy 7 Remake กำลังจะวางจำหน่ายในวันที่ 10 เมษายน 2020 นี้ หรือก็คืออีก 1 เดือนต่อจากนี้ ซึ่งจากข่าวก่อนหน้านี้มันทำให้เราได้รู้ว่าเนื้อเรื่องของ FF7 Remake นั้นจะเป็นเนื้อเรื่องแค่ภายใน Midgar เท่านั้น โดยถ้าพูดจริง ๆ เนื้อเรื่องใน Midgar นั้นมันมันใช้เวลาเล่นเพียงแค่ 1-3 ชั่วโมงในตัวเกม Original เท่านั้น ทำให้เกิดคำถามว่า "เกมนี้จะมี Side Quest ให้ทำมากมายเลยรึเปล่า?" วันนี้คำถามนั้นก็ได้รับคำตอบแล้วครับ! เว็บไซต์ IGN ได้เปิดเผยบทสัมภาษณ์กับคุณ Tetsuya Nomura ที่เป็น Director ของเกมโดยเขาได้บอกว่า "Sub-Quests ของเกม FF7 Remake จะมีคุณภาพเทียบเท่า Main Quest ของเกมเลย จริง ๆ แล้วพวกเรามีไอเดียมากมายที่อยากเอามาทำเป็นคอนเทนต์ในเกม แต่มันไม่สามารถเอามาใส่ทั้งหมดได้ เพราะยังไงก็ยังต้องคำนึงถึงคุณภาพของงานด้วย" ทาง IGN จึงถามคุณ Nomura ว่า "แปลว่า Side Quest ของเกมจะมีคุณภาพดีมาก ๆ เลยใช้รึเปล่า" คุณ Nomura ก็ตอบกลับมาสั้น ๆ ว่า "ใช้" อย่างที่รู้กันว่า FF7 นั้นเป็นเกมที่มีเนื้อเรื่องยาวมาก ๆ และก่อนหน้านี้ก็เคยมีข่าวออกมาว่า FF7 Remake นั้นจะมีเนื้อเรื่องที่ไม่มีในตัวเกม Original ด้วย ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเนื้อเรื่องนั้นถูกเพิ่มมาเยอะขนาดไหน ถึงทำให้เนื้อเรื่องใน Midgar อย่างเดียวกลายเป็นเกมเต็ม ๆ ได้ถึง 1 เกม คงต้องไปรอดูตอนเกมออกแล้วหละครับ Credit: IGN ติดตามข่าวสารเกมต่างๆ ได้ที่

อีกประมาณ 1 เดือนพวกเราทุกคนก็จะได้สัมผัสกับเกม Final Fantasy 7 Remake สุดยอดเกม RPG ระดับตำนานที่กลับมาให้เล่นอีกครั้งบนเครื่อง PS4 พร้อมภาพกราฟิกที่สวยงามกว่าเดิมเป็นอย่างมาก และตอนนี้ตัวเกมก็พัฒนาเสร็จ แถมปล่อยตัว Demo ของเกมให้ทดลองเล่นได้ฟรีบน PS Store แล้วด้วย แต่ถ้าหากใครที่ยังไม่มีเครื่อง PS4 หรือยังไม่มีโอกาสสัมผัสกับเกมนี้เลย วันนี้ก็มีวิดีโอใหม่ถูกปล่อยออกมาถึง 4 ตัว ที่จะทำให้รู้ว่าเกมเพลย์จริง ๆ ของเกมนี้จะเป็นยังไงครับ ในวิดีโอตัวแรกจะเป็นเกมเพลย์ของ Cloud กับ Barret ซึ่งเท่าที่ดู เหมือนว่า Barret จะไม่มีท่าโจมตีระยะประชิดครับ ต่อมาในวิดีโอที่สองจะเป็นการโชว์ภายในเมือง Midgar ที่เหมือนจะโดนทำลายจากอะไรบางอย่าง ส่วนวิดีโอที่สามจะเป็นเกมเพลย์ฉากที่เหมือนโรงงานผลิตหุ่นยนต์ โดยในวิดีโอตัวนี้จะมีเกมเพลย์ของ Tifa ให้ชมด้วย ปิดท้ายด้วยวิดีโอที่เหมือนจะเป็นการสู้กับบอส ในวิดีโอตัวนี้จะได้เห็นเกมเพลย์ของ Aerith และการเรียกใช้มนต์อสูร Ifrit ครับ Final Fantasy 7 Remake จะวางจำหน่ายในวันที่ 10 เมษายน 2020 นี้บนเครื่อง PS4 เท่านั้น Credit: Gamingbolt ติดตามข่าวสารเกมต่างๆ ได้ที่  

Final Fantasy 7 เกม RPG ระดับตำนานกลับมาอีกครั้งบนเครื่อง PS4 ในชื่อ Final Fantasy 7 Remake ซึ่งผู้พัฒนาก็ได้ทำการเปลี่ยนรูปแบบการเล่นเป็นแบบ Action RPG ด้วย ล่าสุดก็เพิ่งจะมีการปล่อย Demo ของตัวเกมออกมาให้เล่นเมื่อวันที่ 2 มีนาคม 2020 และล่าสุดก็มีข่าวออกมาว่าตัวเกม Final Fantasy 7 Remake นั้นได้อยู่ในสถานะ Gone Gold หรือพัฒนาเสร็จเตรียมพร้อมผลิตแล้วนั้นเอง! ข่าวนี้ได้รับการยืนยันจาก Director คุณ Tetsuya Nomura ที่ได้ออกมายืนยันผ่านทางบทสัมภาษณ์ที่เปิดเผยผ่านทาง 4Gamer ว่า "ตัวเกม Final Fantasy 7 Remake พัฒนาเสร็จเรียบร้อยแล้ว และจะไม่มีการเลื่อนวันวางจำหน่ายเกมออกไปอีก" แปลว่าในอีก 1 เดือน เราจะได้สัมผัสเกมนี้แบบ เต็มอิ่มอย่างแน่นอนครับ Final Fantasy 7 Remake จะวางจำหน่ายในวันที่ 10 เมษายน 2020 นี้ บนเครื่อง PS4 เท่านั้น Credit: Gamingbolt ติดตามข่าวสารเกมต่างๆ ได้ที่

Final Fantasy 7 Remake เป็นหนึ่งในเกมที่เกมเมอร์แทบทุกคนอยากจะเข้าไปสัมผัสอย่างแน่นอน และในช่วงที่เกมใกล้จะวางจำหน่ายแล้วแบบนี้ ก็ดูเหมือนว่าจะมีการปล่อย Demo ของตัวเกมให้โหลดมาทดลองเล่นแล้วตอนนี้ครับ แถมตัว Demo ที่ว่านี้ก็ไม่ใช้เวอร์ชั่นที่มีแค่ภาษาญี่ปุ่น แต่เป็นเวอร์ชั่นทีมีภาษาอังกฤษในเกมด้วย งานนี้กลับบ้านไปอย่าลืมไปกดโหลดกันด้วยครับ! เว็บไซต์ Play Station Store ได้ทำการเปิดหน้า Final Fantasy 7 Remake Demo (English/Japanese Ver.) แล้วในวันที่ 2 มีนาคม 2020 ซึ่งในตัว Demo ที่ปล่อยให้เล่นนี้ดูเหมือนจะมีความยาวของเนื้อเรื่องถึง 1 Chapter เลยด้วย และถ้าหากได้ทำการดาวโหลดเกมเวอร์ชั่น Demo ในวันนี้ หลังจากวันที่ 10 เมษายน 2020 จะสามารถดาวโหลด Exclusive Theme สำหรับเครื่อง PS4 ได้ด้วย งานนี้แฟนพันธุ์แท้ห้ามพลาดโดยเด็ดขาดครับ Final Fantasy 7 Remake จะวางจำหน่ายในวันที่ 10 เมษายน 2020 นี้ บนเครื่อง PS4 เท่านั้น ติดตามข่าวสารเกมต่างๆ ได้ที่

คงปฏิเสธไม่ได้ว่า Final Fantasy 7 Remake กลายเป็นหนึ่งในเกมที่เกมเมอร์ทั่วโลกต่างให้ความสนใจ และรอที่จะได้สัมผัสจนแทบจะทนไม่ไหวแล้ว ซึ่งก่อนหน้านี้เราก็ได้เห็นวิดีโอเกมเพลย์ของภาคนี้ไปแล้วมากมาย แน่นอนว่าหนึ่งในระบบที่แฟน ๆ ชอบมากของเกมในซีรีส์นี้ก็คือระบบ "มนต์อสูร" วันนี้ทางผู้พัฒนาก็ได้ปล่อยวิดีโอโชว์การเรียกใช้ 3 มนต์อสูรสุดน่ารัก Chocobo Chick, Carbuncle และ Cactuar ออกมาด้วย สามารถรับชมได้ข้างล่างนี้เลยครับ! วิดีโอการเรียกใช้มนต์อสูรแต่ละตัวถูกปล่อยออกมาแบบแยกกัน ซึ่ง Chocobo Chick นั้นจะใช้ท่าโจมตีเป็นการร่ายเวทมนต์ธาตุต่าง ๆ , ส่วน Carbuncle จะเป็นมนต์อสูรสายซับ ใช้สกิลบัฟต่าง ๆ เพื่อให้เราสามารถเล่นได้ง่ายขึ้น ในขณะที่ Cactuar จะโจมตีด้วยการยิงเข็มใส่ศัตรู และมีท่าไม้ต้ายสุดยอดเป็นการสลัดเข็มวงกว้าง มนต์อสูรทั้ง 3 ตัว จะแถมมากับตัวเกมสำหรับคนที่ Pre-Order ทุกคน ถ้าหากใครอยากได้มนต์อสูรสุดน่ารักทั้ง 3 ตัว ก็อย่าลืม Pre-Order กันด้วยนะครับ Final Fantasy 7 Remake จะวางจำหน่ายในวันที่ 10 เมษายน 2020 นี้ บนเครื่อง PS4 เท่านั้น https://twitter.com/finalfantasyvii/status/1230069657324879872?ref_src=twsrc%5Etfw%7Ctwcamp%5Etweetembed%7Ctwterm%5E1230069657324879872&ref_url=https%3A%2F%2Fgamingbolt.com%2Ffinal-fantasy-7-remake-chocobo-chick-carbuncle-and-cactuar-revealed-in-new-gameplay-clips https://twitter.com/finalfantasyvii/status/1230069823918497792?ref_src=twsrc%5Etfw%7Ctwcamp%5Etweetembed%7Ctwterm%5E1230069823918497792&ref_url=https%3A%2F%2Fgamingbolt.com%2Ffinal-fantasy-7-remake-chocobo-chick-carbuncle-and-cactuar-revealed-in-new-gameplay-clips Credit : Gamingbolt ติดตามข่าวสารเกมต่างๆ ได้ที่

Final Fantasy 7 Remake คงเป็นอีกหนึ่งเกมที่หลาย ๆ คนรอคอยกันอยู่ในตอนนี้ ซึ่งก็เหลือเวลาอีกไม่ถึง 2 เดือนแล้ว ก่อนที่ตัวเกมจะวางจำหน่าย ในตัวเกมเวอร์ชั่นนี้ก็ได้รับการอัพเกรดกราฟิกให้สวยขึ้นเป็นอย่างมาก จนทำเอาหลาย ๆ คนสงสัยว่า "แล้วตัวเกมมันจะใช่พื้นที่เท่าไหร่ในเครื่อง?" วันนี้ก็มีการเปิดเผยแล้วว่าตัวเกมจะใช้พื้นที่ประมาณ 100 GB บนเครื่อง PS4 ครับ! เว็บไซต์ Pushsquare ได้รายงานว่า บริเวณปกด้านหลังของกล่องเกมเวอร์ชั่นเกาหลี มีข้อความที่เขียนว่าตัวเกมจะใช้พื้นที่ประมาณ 100 GB ซึ่ง Pushsquare ไม่ได้บอกว่า 100 GB ในที่นี้ รวมตัวติดตั้งเข้าไปด้วยรึเปล่า แต่คิดว่าน่าจะไม่ได้รวมครับ เพราะจาก Opening ที่ปล่อยออกมาก่อนหน้านี้ ทำให้เรารู้ว่าตัวเกมจะมี Cinematic ที่สวยมาก ๆ ผู้เขียนจึงคิดว่าไม่ใช้เรื่องแปลกอะไรที่ตัวเกมจะมีขนาดถึง 100 GB ครับ Final Fantasy 7 Remake จะวางจำหน่ายในวันที่ 10 เมษายน 2020 นี้บนเครื่อง PS4 เท่านั้นครับ Credit : Pushsquare ติดตามข่าวสารเกมต่างๆ ได้ที่

ใกล้เข้ามาทุกทีแล้วกับเกมที่หลายคนรอคอยอย่าง Final Fantasy 7 Remake จากค่ายเหลี่ยม Square Enix ที่มีกำหนดจะวางจำหน่ายในเวลาอีกไม่ถึง 2 เดือนข้างหน้านี้แล้ว ล่าสุด ทางผู้พัฒนาเกมก็ได้ปล่อยวีดีโอเปิด หรือ Opening Movie ของเกมออกมาให้ได้ชมกันแล้ว โดยแม้ว่าจะไม่ได้มีเกมเพลย์หรือรายละเอียดใหม่ๆ เท่าไหร่นัก เพราะฉากหลายฉากในวีดีโอ ได้เคยถูกใช้ไปแล้ว ในตัวอย่างเกมหลายๆ ตัวที่ผ่านมา แต่ก็ถือเป็นครั้งแรกที่ผู้เล่นจะได้เห็นฉากเปิดนี้แบบเต็มๆ สำหรับช่วงต้นๆ ของวีดีโอ จะแสดงให้เราเห็นถึงส่วนต่างๆ ของดินแดน Midgar อันเป็นที่ตั้งของเกม รวมไปถึงวิถีชีวิตของผู้คนที่อาศัยอยู่ในนั้นด้วย ในขณะที่ครึ่งหลังของคลิป แทบจะเป็นการนำฉากเปิดเกมฉบับดั้งเดิมมาทำใหม่ทั้งหมด โดยยังคงเน้นไปที่ตัวละคร Aerith เหมือนเดิม และก็จบที่ฉาก Cloud เดินทางมาถึงสถานีรถไฟ ซึ่งคนที่เคยเล่นภาคดั้งเดิมมา (หรือเคยได้เล่นเดโมเกม) น่าจะทราบดีว่าคือฉากแรกสุดของเกมนั่นเอง สำหรับแฟนๆ ที่อดใจรอให้ถึงวันวางจำหน่ายเกมวันที่ 10 เมษายนนี้ไม่ไหว ทางผู้พัฒนา Square Enix ได้เคยออกมายืนยันแล้วว่าเกม Final Fantasy 7 Remake จะมีเดโมให้ชาว PS4 ลองโหลดมาเล่นกันก่อนแน่นอน แต่จะมาเมื่อไหร่นั้น คงต้องรอประกาศอีกทีจ้า ติดตามข่าวสารเกมต่างๆ ได้ที่

เป็นเรื่องนาเสียดายที่สุดท้ายเกม Final Fantasy 7 Remake ต้องถูกเลื่อนวันวางจำหน่ายออกไป 1 เดือน แต่ถือว่ายังดีที่เลื่อนออกไปเพียงแค่ 1 เดือนเท่านั้น เพราะเกมฟอร์มยักษ์อื่น ๆ อย่าง Cyberpunk 2077 หรือ Marvels Avenger ต้องเลื่อนออกไปมากกว่า 3 เดือนเลยทีเดียว แต่เหมือนว่าจะไม่ใช้แค่วันวางจำหน่ายเกมอย่างเดียวที่ถูกเลื่อนออกไปครับ เพราะล่าสุดก็มีข่าวออกมาว่า ช่วงเวลาที่ FF7 Remake จะ Exclusive บนเครื่อง PS4 นั้น ถูกเลื่อนออกไปจนถึงวันที่ 4 เมษายน 2021 เช่นกันครับ! แต่เดิมตัวเกมมีกำหนดจะวางจำหน่ายในวันที่ 3 มีนาคม 2020 และจะ Exclusive บนเครื่อง PS4 ไปจนถึงวันที่ 3 มีนาคม 2021 หรือ 1 ปี แต่จากข่าวที่วันวางจำหน่ายเกมถูกเลื่อนออกไปเป็นวันที่ 10 เมษายน 2020 แทน ก็เลยทำให้ ช่วงเวลา Exclusive ถูกเลื่อนออกไปจนถึงวันที่ 10 เมษายน 2021 ด้วยเช่นกัน งานนี้ใครที่อยากเล่นบนเครื่อง PC ก็คงต้องรอกันไปยาว ๆ ครับ Final Fantasy 7 Remake จะวางจำหน่ายในวันที่ 10 เมษายน 2020 นี้บนเครื่อง PS4 เท่านั้นครับ Credit : Siliconera ติดตามข่าวสารเกมต่างๆ ได้ที่

Final Fantasy Vll Reamke กำลังจะมาถึงมือผู้เล่นในอีกไม่ถึง 3 เดือนต่อจากนี้ การกลับมาของเกม RPG ระดับตำนานนี้สร้างความตื่นเต้นให้กับทั้งแฟน ๆ และเหล่าเกมเมอร์เป็นอย่างมาก โดยทาง Square-Enix ก็ไม่ได้ปล่อยกระแสนี้สูญเปล่า  ทำการเปิดตัวสินค้าที่เกี่ยวข้องตัวเกมออกมาเป็นจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็นกระเป๋าตัง , กระเป๋ากุญแจ , กำไลข้อมือ หรือ สร้อยคอ และล่าสุด ก็ได้เปิดตัวนาฬิกาข้อมือแบบ Chronograph ในราคา $2,499.99 ด้วยครับ! Square-Enix ภาคภูมิใจนำเสนอ นาฬิกาแบบ Chronograph ที่ใช้ระบบ Automatic Movement ของ Seiko โดยตัวนาฬิกานั้นจะมี 2 แบบคือ Cloud Strife Edition ที่มากับบอดี้สีเงิน และ Sephiroth Edition ที่มากับบอดี้สีดำ ในราคา $2499.99 (ประมาณ 78,000 บาท) ซึ่งจะเป็นรุ่น Limited Edition ที่มีเพียง 77 เรือนต่อภูมิภาคเท่านั้น ถ้าใครสนใจนาฬิกาตัวนี้ หรือสินค้าอื่น ๆ ของ Final Fantasy Vll ก็เข้าไปดูที่หน้าเว็บไซต์ของ Square-Enix ผ่านลิงก์นี้ได้เลยครับ Credit : Nintendolife ติดตามข่าวสารเกมต่างๆ ได้ที่

Final Fantasy 7 Remake คือหนึ่งในเกมฟอร์มยักษ์ที่กำลังจะวางจำหน่ายในช่วงต้นปีนี้ และมีเกมเมอร์ให้ความสนใจทั่วโลกอย่างแน่นอน ถึงจะน่าเสียดายที่ตัวเกมถูกเลื่อนวันวางจำหน่ายออกไปอีก 1 เดือน แต่ก็ทำให้เรามั่นใจได้ว่าตัวเกมที่ถูกเอาออกมาวางจำหน่ายนั้น จะมีความสมบูรณ์พร้อมอย่างแน่นอน และวันนี้ทางผู้พัฒนาก็ได้ปล่อย Trailer ตัวใหม่ของเกมออกมาแล้ว เรื่องพีคที่สุดคือเราจะได้เห็น Cloud แต่งหญิงด้วยครับ! Trailer ตัวใหม่นั้นมีความยาวเกือบ 4 นาที โดยตัววิดีโอที่ปล่อยออกมานั้น ทำให้เราได้เห็น Footage รวมไปจนถึงฉากต่าง ๆ ในเนื้อเรื่องของเกมมากขึ้น , ได้เห็นตัวละคร Barret Wallace ต่อสู้ในแบบเกมเพลย์จริง ๆ ครั้งแรก , รวมไปจนถึงฉากโจมตีของมนต์อสูรอื่น ๆ อย่าง Leviathan หรือ Mog ขี่ Chocobo เอง ก็มีให้ดูใน Trailer ตัวใหม่นี้ด้วย รับชม Trailer ดังกล่าวได้ข้างล่างนี้เลยครับ Final Fantasy 7 Remake จะวางจำหน่ายในวันที่ 10 เมษายนนี้ บนเครื่อง PS4 เท่านั้น! ติดตามข่าวสารเกมต่างๆ ได้ที่

แม้ว่าจะมีการเปิดตัวโลโกของเครื่อง PlayStation 5 เมื่อคืนที่ผ่านมาพร้อมทั้งกำหนดการว่าจะวางจำหน่ายในปลายปี 2020 แต่เครื่อง PlayStation 4 ยังคงสามารถเล่นเกมไปได้อีกหลายปี รวมถึงมีเกมต่าง ๆ ทยอยลงให้อย่างต่อเนื่องตลอดปีนี้ โดยเฉพาะเกม Exclsuive ที่ไม่สามารถหาเล่นได้จากแพลตฟอร์มอื่น ๆ วันนี้พวกเรา Gamefever จึงขอนำเสนอ 5 เกม Exclusive PlayStation น่าเล่นประจำปี 2020 1. Last of Us Part II Last of Us ถือว่าเป็นหนึ่งในเกมที่ประสบความสำเร็จมาก ๆ จากทีมงาน Naughty Dog ที่เน้นการเล่าเรื่องที่ถึงอารมณ์และการเล่าเรื่องที่เข้มข้นถึงใจ พร้อมทั้งกวาดรางวัลไปมากกว่า 200 รายการ ทำให้เกม Last of Us Part II กลายเป็นหนึ่งในเกมที่หลาย ๆ คนจับตามอง ตัวเกมยังคงนำเสนอในแนวทางของภาคแรกแต่ได้มีการยกระดับทุกอย่างให้ดีขึ้น ทั้งการเล่าเรื่องที่ดิบกว่าเดิม ความโหดร้ายของโลกในเกมและกราฟิกที่ดึงเอาศักยภาพของเครื่อง PlayStation 4 มาอย่างเต็มความสามารถทำให้เกมนี้แฟน ๆ ของ Sony พลาดไม่ได้วันที่ 29 พฤษภาคม 2020 นี้ลางานรอได้เลย 2.Final Fantasy 7 ถือว่าเป็นหนึ่งในเกมที่สร้างความฮือฮาอย่างมากนับตั้งแต่เปิดตัวในงาน E3 ปี 2015 ปัจจุบันผ่านไป 5 ปีก็ถึงคราวที่เกมนี้จะได้ส่งมาถึงมือของแฟน ๆ เสียที เกม Final Fantasy 7 ฉบับ Remake ได้มีการปรับปรุงระบบเกมการเล่นใหม่ ที่เป็นการผสมระหว่างความเป็น Action และ Turn Base ที่ทำออกมาได้อย่างลื่นไหล นอกจากนี้กราฟิกในเกมยังทำออกมาได้อย่างยอดเยี่ยม ที่สำคัญหากอยากเล่นในปีนี้ต้องซื้อบนเครื่อง PlayStation 4 เท่านั้น สำหรับเกมนี้จะวางจำหน่ายในวันที่ 3 มีนาคม 2020 3.Ghost of Tsushima แม้ว่าทีมงาน Sucker Punch Productions ยังไม่ยืนยันวันวางจำหน่ายเกมอย่างเป็นทางการ แต่ว่าปีนี้มาแน่นอนสำหรับเกม Ghost of Tsushima ที่เล่าเรื่องราวฉากหลังของประเทศญี่ปุ่นในช่วงการรุกรานของจักรวรรดิมองโกล ตัวเกมเป็นเกมแนว Action - Adventurer - Stealth ที่จะให้เราสวมบทเป็น Jin Sakai ซามูไรคนสุดท้ายในเกาะ Tsushima ที่ต้องทำทุกวิถีทางในการต่อต้านกับกองทัพมองโกลด้วยวิธีการแบบ Ghost 4.Predator: Hunting Grounds Predator: Hunting Grounds ถือว่าเป็นหนึ่งในเกมแนว Co-op PvP ที่น่าสนใจมากสำหรับเครื่อง PlayStation 4 โดยตัวเกมจะแบ่งผู้เล่นออกเป็นสองฝ่ายคือ ฝ่ายมนุษย์ที่จะต้องร่วมมือกันในการทำภารกิจต่าง ๆ ให้สำเร็จและฝ่ายของ Predator ที่ต้องสังหารมนุษย์ไม่ให้เหลือรอดแม้แต่คนเดียว ทำให้อารมณ์ของเกมนี้จะคล้ายกับ Dead by Daylight ฉบับ Predator ซึ่งหากคุณชอบเกมแนวดังกล่าวเกมนี้ถือว่าตอบโจทย์ ตัวเกมจะวางจำหน่ายในปีนี้อย่างแน่นอน 5.Nioh 2 ปิดท้ายกันด้วยเกมยากระดับปาจอยทิ้งที่สาวก PlayStation 4 ควรหามาเล่นกับเกม Nioh 2 ที่ได้นำเอาตำนานและเรื่องราวลึกลับของประเทศญี่ปุ่นมาทำใหม่ในรูปแบบของ Dark Fantasy ที่ทำออกมาได้สนุกและน่าสนใจมาก ๆ นอกจากนี้สำหรับภาคใหม่ตัวเกมได้มีการเพิ่ม Feature ต่าง ๆ ที่น่าสนใจมากมายตั้งแต่ตัวละครไปจนถึงแนวทางที่เล่น โดยเกมนี้จะวางจำหน่ายในวันที่ 13 มีนาคม จะเห็นได้ว่าในปีนี้เกม Exclusive ของเครื่อง PlayStation 4 ยังคงน่าเล่นเหมือนกับทุก ๆ ปีที่ผ่านมา ทำให้เราเห็นถึงศักยภาพของทีมงานต่าง ๆ ที่สามารถทำเกมยอดเยี่ยมมากมายลงในเครื่อง Console ที่มีอายุมากกว่า 7 ปีได้อย่างลื่นไหล ขอให้เกมเมอร์ทุกท่านมีความสุขในการเล่นเกมครับผม

Final Fantasy 7 Remake เกมเก่าจากยุคสมัยเครื่อง PlayStation 1 จากทาง Square Enix ที่กำลังจะกลับมาให้สัมผัสอีกครั้งในปี 2020 นี้ ตัวเกมได้มีการปรับปรุงกราฟิกให้สวยทันสมัย ทั้งยังมีการปรับเปลี่ยนระบบเกมเพลย์ ให้ดูมีความ Action มากขึ้น ซึ่งวันนี้ทางผู้พัฒนา ก็ได้มีการปล่อยภาพ ScreenShot เซ็ตใหญ่ออกมายั่วแฟน ๆ ด้วยครับ! ก่อนหน้านี้ทางผู้พัฒนา ก็ได้มีการปล่อย Trailer , เกมเพลย์ , รูปภาพมากมาย ออกมาให้เหล่าแฟน ๆ ได้ดูกัน แต่นั้นดูเหมือนจะยังไม่ใช้ทั้งหมดครับ เพราะวันนี้ก็มีรูปภาพอีกกว่า 20 ภาพถูกปล่อยออกมาด้วย ในเซ็ตรูปภาพดังกล่าวนั้น เป็นภาพของตัวละครต่าง ๆ จากมุมมองที่แตกต่างกันไป สามรถรับชมได้ข้างล่างนี้เลยครับ เซ็ตภาพดังกล่าวนั้นเปิดตัวด้วย ภาพของ Key Arts จากเนื้อเรื่องของเกม ที่ถูกวาดใหม่ให้สวยงาม โดยภาพเซ็ตแรกเป็นของ Tifa ที่นั่งมองท้องฟ้ายามราตรี กับ ภาพของ Sephiroth ที่ยืนอยู่ท่ามกลางเปลวไฟ และในบริษัท Shinra ครับ ต่อมาเป็นรูปภาพของ มุมมองต่าง ๆ ในบริษัท Shinra ซึ่งตัวละครสำคัญที่อยู่ฝั่งบริษัท Shinra เองก็ดูเหมือนจะได้รับการออกแบบใหม่ด้วยครับ สถานที่ต่อมาที่มีภาพถูกปล่อยออกมาก็คือ Train Graveyard ซึ่งในเวอร์ชั่น Original สถานที่แห่งนี้จะไม่ได้มีเหตุการสำคัญอะไรเกิดขึ้น แต่ดูเหมือนว่าในเวอร์ชั่น Remake นั้น จะมีการเพิ่มเนื้อเรื่องเข้ามาด้วยในฉากนี้ ต้องรอลุ้นตอนเกมออก ว่าเนื้อเรื่องในช่วงนี้ที่ถูกเพิ่มเข้ามาจะเป็นยังไงครับ จากนั้นจึงเป็นรูปภาพ ที่โชว์การเล่น ใช้สกิล และต่อสู้ของตัวละคร Aerith ซึ่งเราก็ได้เห็นเกมเพลย์ของเธอเล็กน้อยในคลิปที่เคยปล่อยออกมาก่อนหน้านี้ด้วย โดยในตัวเกมเวอร์ชั่นนี้เธอดูจะทำอะไรได้มากกว่าในเวอร์ชั่น Original ครับ ปิดท้ายด้วยภาพของมนตร์อสูร Shiva ที่เรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในมนตร์อสูร ที่มีให้เห็นใน Final Fantasy แทบทุกภาค โดยจากเกมเพลย์ของมนตร์อสูร ifrit ที่เคยปล่อยออกมาก่อนหน้านี้ ก็น่าลุ้น อยู่เหมือนกันว่า การโจมตีของเธอจะเป็นอย่างไรบ้าง แต่มีท่าโจมตีน้ำแข็งตกลงมาจากฟ้า แน่ ๆ แล้ว 1 ท่าครับ Credit : GameRant ติดตามข่าวสารเกมต่างๆ ได้ที่  

หลังจากที่ปล่อยวิดีโอส่วนอื่น ๆ ของเกมอยู่นาน ในที่สุดพระเอกของเรา Cloud Strife! ก็ได้เปิดตัวกับเขาสักที่ ทั้งที่เป็นตัวละครที่เหมือนกับสัญลักษณ์ของ Final Fantasy 7 Remake แท้ๆ คิดว่าทางผู้พัฒนาอย่าง Square Enix นั้นรู้ดีอยู่แล้วว่าพระเอกของเราเป็นที่รักของผู้เล่นขนาดไหน Trailer ตัวใหม่นี้ จึงมีแค่ Cloud แค่คนเดียวทั้งวิดีโอเลยครับ! มันเป็นความรู้สึกที่พิเศษมากที่พระเอกของ FF7 ที่เหล่าแฟน ๆ ต่างรักมาก ได้วิวัฒนาการจากตัวเหลี่ยม ๆ ในเวอร์ชั่น Original บนเครื่อง PS1 มาเป็น ตัวละคร 3D โคตรเท่ในเวอร์ชั่น Remake บนเครื่อง PS4 นี้ ตัววิดีโอนี้มีความยาว 26 วินาที รับรองเลยว่าเป็น 26 วินาทีที่ได้เห็นความเท่ของพระเอกเราแบบเต็มอิ่มแน่นอนครับ Final Fantasy 7 Remake จะวางจำหน่ายในวันที่ 3 มีนาคม 2020 บนเครื่อง PS4 เท่านั้นครับ https://twitter.com/finalfantasyvii/status/1200451856373186560 Credit : VG24/7 ติดตามข่าวสารเกมต่างๆ ได้ที่

เรียกได้ว่าช่วงนี้ปล่อยของกับแบบไม่มีหยุดจริงๆ กับเกม Final Fantasy 7 Remake เพราะนอกจากจะปล่อยภาพ Artwork ทั้งสถานที่หรือตัวตัวละคม ออกมายั่วแฟนๆ มากมายแล้ว ยังมีการปล่อยเกมเพลย์ของตัวละครต่างๆ พร้อมกับเปิดเผยระบบการเล่นที่เป็นแบบ Realtime Battle System อีกด้วย ล่าสุดก็มีการปล่อยวิดีโอโชว์ใช้สกิล Tempest ของ Aerith เช่นกัน โดยสกิลนี้ ตัว Aerith จะทำการปล่อยคริสตัล ออกไปยังพื้นที่เป้าหมาย จากนั้นจะเกิดการระเบิดขึ้นรอบๆ คริสตัลที่ปล่อยออกไป สร้างความเสียหายเป็นวงกว่าง นั้นจึงหมายความว่าสกิลนี้คือสกิลโจมตีหมู่จากระยะไกลนั้นเอง ไม่รู้เหมือนกันว่าเป็นเรื่องที่น่ายินดีรึเปล่า เพราะดูเหมือนว่าตัวเกมเวอร์ชั่น Remake นี้ Aerith ดูจะมีความสามารถใรการต่อสู้ มากกว่าตัวเกมเวอร์ชั่น Original ครับ Final Fantasy 7 Remake จะวางจำหน่ายในวันที่ 3 มีนาคม 2020 บนเครื่อง PS4 เท่านั้น https://twitter.com/finalfantasyvii/status/1199659383518420992?ref_src=twsrc%5Etfw%7Ctwcamp%5Etweetembed%7Ctwterm%5E1199659383518420992&ref_url=https%3A%2F%2Fgamingbolt.com%2Ffinal-fantasy-vii-remakes-newest-video-shows-off-aeriths-tempest-attack Credit : Gamingbolt ติดตามข่าวสารเกมต่างๆ ได้ที่

Final Fantasy 7 Remake คือหนึ่งนเกมที่เหล้าผู้เล่นต่างรอค้อยกันมาอย่างยาวนาน และใน่ช่วง 1 เดือนที่ผ่านมานี้ เราก็ได้เห็น Footage รวมถึงฉากต่างๆ ในเกมอย่างมากมาย ไม่ว่าจะเป็นทางด้านเกมเพลย์ หรือว่าภาพ Artwork ที่เอาของฉากเก่าๆ มาวาดใหม่ได้อย่างสวยงาม และล่าสุดก็มีการปล่อยภาพของสถานที่ต่างๆ ออกมาอีกด้วย! ครั้งนี้มีภาพของสถานที่ต่างๆ ภายในเกม ก็ถูกปล่อยออกมาด้วยกัน 3 ภาพ โดยทั้งหมดเป็นภาพจาก Sector 5 ประกอบไปด้วย โบสถ์ของ Aerith , บ้านของเธอทั้งมุมมองจากภายนอก และภายใน ซึ่งบอกเลยว่า ภาพสถานที่ต่างๆ นั้นถ้าไม่บอกว่าอยู่ใน Sector 5 ก็คงไม่รู้ว่า สถานที่เหล่านี้มันอยู่ในเขตที่เป็นสลัม! เพราะมันดูสวยงามเกินกว่าจะไปอยู่ในสลัมได้จริงๆ ครับ Final Fantasy 7 Remake จะวางจำหน่ายในวันที่ 3 มีนาคม 2020 บนเครื่อง PS4 เท่านั้น https://twitter.com/finalfantasyvii/status/1199327194608283648 ติดตามข่าวสารเกมต่างๆ ได้ที่  

Square Enix ได้ทำการปล่อย Footage ต่างๆ ของเกม Final Fantasy 7 Remake ออกมามากมาย ในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็นการใช้ Limited Break ของ Tifa หรือการเรียกใช้ Summon Ifrit ให้ออกมาช่วยต่อสู้ วันนี้ทางผู้พัฒนาก็ได้ทำการปล่อยภาพใหม่ๆ ออกมาอีกมากมาย โดยภาพเหล่านี้ก็คือฉากในวันวานของเกม Final Fantasy 7 Original นั้นเอง! ภาพที่ปล่อยออกมานั้นเป็นภาพในฉากของ Aerith กับ Barrett โดยฉากของของ Aerith นั้นเป็นภาพที่เธอมองขึ้นไปบนท้องฟ้าบนสถานที่ซึ่งน่าจะเป็นลานจอดเครื่องบิน สวนทาง Barrett นั้นเป็นฉากที่ยืนมองหย่อมดอกไม้ ที่ขึ้นอยู่ในโบส Midgar กับ Marlene โดยสามารถดูภาพ Original และเวอร์ชั่น Remake ได้ข้างล่างนี้เลยครับ  Aerith : Original  Aerith : Remake Barrett & Marlene : Original Barrett & Marlene : Remake นอกจากนี้ Official Twitter ก็ยังมีการโพสต์รูปของ Reno กับ Rude ในเวอร์ชั่น Remake พร้อมกับ อธิบายถึงความสามารถของทั้งสองคนด้วย โดยได้เขียนเอาไว้แบบนี้ "Reno เป็นคนในหน่วย Investigation ของ Shinra มีจุดเด่นคือเรื่องความเร็ว กับความชำนาญในการใช้อาวุธ" และ "Rude ไม่ใช้อาวุธ และเป็นคนไม่ค้อยพูด" นอกจากนี้ก็ยังมีภาพของ Moggle & Chocobo ที่เป็น Summon ตัวใหม่อีกด้วย https://twitter.com/finalfantasyvii/status/1199041389314682880 https://twitter.com/finalfantasyvii/status/1199010105301196801 Credit : Siliconera ติดตามข่าวสารเกมต่างๆ ได้ที่

เกม RPG ระดับตำนานอย่าง Final Fantasy 7 Remake กำลังจะวางจำหน่ายในช่วงเดือนมีนาคม ปี 2020 ที่จะถึงนี้ ซึ่งตัวเกมก็ได้เปิดให้สามารถทดลองเล่นได้ในงาน Tokyo Game Show และ Thailand Game Show ที่ผ่านมา ทำให้เราได้เห็น Gameplay Footage กันไปมากมายแล้ว สำหรับคนที่ยังไม่เคยได้สัมผัสเกมด้วยตัวเอง ทาง Official ก็ได้ปล่อยวีดีโอต่างๆ ออกมาเพื่อเอาใจแทน ก่อนหน้านี้ก็มีวิดีโอที่แสดงการใช้ระบบ Tactical ในการต่อสู้ไปแล้ว ล่าสุดเองก็มีการปล่อยออกมาอีกหนึ่งวิดีโอ โดยเป็นการโชว์ใช้สกิล Limit Break ภายในเกมให้ดู ซึ่งครั้งนี้ใช้ตัวละคร Tifa ในการโชว์! Limit Break เป็นระบบที่มักจะเห็นใน Final Fantasy หลายภาค โดยเป็นเหมือนสกิลท่าไม้ตายนั้นเอง การที่จะสามารถใช้สกิลนี้ได้ผู้เล่นจำเป็นต้องเก็บ Limit Gauge ของตัวละครนั้นให้เต็มก่อน ส่วนตัว Limit Gauge เองนั้นจะได้รับเวลาโดนดาเมจจาก Abilities ของศัตรู ถ้าสงสัยว่า "ท่าโจมตี Limit Break ของ Tifa เป็นยังไง?"แล้วละก็ รับชมได้ข้างล่างนี้เลยครับ ตัวเกม Final Fantasy 7 Remake จะวางจำหน่ายวันที่ 3 มีนาคม 2020 บนเครื่อง PS4 https://twitter.com/finalfantasyvii/status/1190207100078571520 Credit : Gamingbolt ติดตามข่าวสารเกมต่างๆ ได้ที่

เป็นอีกหนึ่งเกมที่เหล่าเพลเยอร์รอคอยการกลับมาของสุดยอดตำนาน RPG อย่าง Final Fantasy 7 Remake ซึ่งในงาน Thailand Game Show 2019 ที่ผ่านมา ก็มีการเปิดให้เข้าไปทดลองเล่นเกมนี้ได้ฟรีด้วย(แถวยาวมากเวอร์) หลังจากที่เราได้เห็นเกมเพลย์และกราฟิกของเกมกันไปแล้ว ล่าสุดทางผู้พัฒนาก็ได้ออกมากล่าวด้วยอีกว่าในภาคนี้จะมี Squats Minigame เหมือนกับเวอร์ชั่นคลาสสิคให้เล่นด้วย! official Twitter ได้โพสวิดีโอที่สัมภาษณ์คุณ Yoshinori Kitase ตำแหน่ง Producer ของเกม FF7 Remake ว่า "ทำไมถึงได้ใส่ Squats Minigame เข้ามาด้วย?" โดยเขาก็ได้ตอบว่า "เรารู้ว่าแฟนๆ รักทุกอย่างที่เป็น Final Fantasy 7 เราจึงอยากจะทำทุกอย่างเท่าที่จะเป็นไปได้ เพื่อให้เกมนี้เหมือนกับเวอร์ชั่นคลาสสิคที่สุด ถึงแม้ว่ามันจะเป็นมินิเกมที่เล็กแค่ไหนก็ตาม" นับเป็นเรื่องที่ดีเพราะแม้ว่าจะเป็นตัวเกมเวอร์ชั่น Remake แต่เราคงจะได้เห็นฉากในวันวานที่แสนคิดถึงในเกมภาคนี้ด้วยอย่างแน่นอนครับ Final Fantasy 7 Remake จะวางจำหน่ายในวันที่ 3 มีนาคม 2020 บนเครื่อง PS4 เท่านั้น https://twitter.com/finalfantasyvii/status/1188470658046414848 ติดตามข่าวสารเกมต่างๆ ได้ที่

อีกหนึ่งเกมฟอร์มยักษ์ที่จะออกในช่วงต้นปีหน้าอย่าง Final Fantasy 7 Remake ซึ่งก็ต้องยอมรับว่าเป็นเกมที่ เหล่าเกมเมอร์ติดตามข่าวสารและรอคอยกันอย่างใกล้ชิด แน่นอนว่าทาง Square Enix ก็ได้มีกการปล่อยตัวอย่างกับรูปออกมายั่วเรื่อยๆ ล่าสุด Official Twitter ก็ได้ปล่อยวีดีโอเกมเพลย์โชว์การใช้ระบบ Tactical ในการต่อสู้จริง! ในระหว่างการต่อสู้ภายในเกม ผู้เล่นจะสามารถกดปุ่ม "X" เพื่อเอาสู่ Tactical Mode ได้ ซึ่งจะส่งผลให้ภาพโดยรอบถูกทำให้สโลว์ลงอย่างมาก เปิดโอกาสให้ผู้เล่นได้เลือกการกระทำต่อไปได้ ซึ่งจะช่วยหลบการโจมที่รุนแรง หรือใช้ต่อคอมโบก็ได้เช่นกัน เหมือนในตัวอย่างที่มีการใช้ Tactical เพื่อสโลว์เปิดโอกาสให้ Cloud เลือกใช้สกิล Braver ในการฟันปิดฉากได้นั้นเอง ตัวเกม Final Fantasy 7 Remake จะวางขายในวันที่ 3 มีนาคม 2020 บนเครื่อง PS4 https://twitter.com/finalfantasyvii/status/1182235632334200834 ติดตามข่าวสารเกมต่างๆ ได้ที่

อย่างที่ทราบว่า Final Fantasy 7 Remake ได้ปรับเปลี่ยนระบบการต่อสู้ให้เป็นเกมแนวแอ็คชั่นแทนที่จะเป็นแนวเทิร์นเบส แต่สำหรับแฟนยุคเก่าๆ ของเกมนี้ที่ต้องยอมรับเลยว่า อายุอานามเองก็ไม่ใช่น้อยๆ เล่นเกมแอ็คชั่นมากๆ ก็จะต้องมีเวียนหัวกันบ้าง แต่ว่าตัวเกมนี้ก็จะมี Classic Mode เอาใจผู้เล่นหน้าเก่าเช่นกัน ที่จะเป็นการผสมผสานระหว่างการโจมตีแบบแอ็คชั่นและการเล่นแบบสไตล์ RPG เก่าๆ ได้อย่างดีเยี่ยม โดยโปรดิวเซอร์ของเกมนี้อย่างคุณ Yoshinori Kitase ได้ Live Stream สดภายในงาน Tokyo Game Show 2019 และอธิบายถึงระบบ Classic Mode นี้ว่าเวลาต่อสู้ตัวเกมจะทำการโจมตีและหลบหลีกให้อัตโนมัติ แต่ถ้าเวลาเราโจมตีไปเรื่อยๆ และจนทำให้เกจ ATB ด้านล่างของเลือดตัวละครเต็ม เราจะสามารถกดหลังเพื่อเข้าสู่ Wait Mode จะทำการสโลว์โมชั่นภาพเคลื่อนไหว ซึ่งจะทำให้เราสามารถใช้ไอเท็ม, สกิลต่างๆ ได้นั่นเอง (ดูคลิปวิดีโอได้ทางด้านล่าง) https://www.youtube.com/watch?v=0x1AGz8DwtY Final Fantasy 7 Remake มีกำหนดวางจำหน่ายในวันที่ 3 มีนาคม 2020 บนเครื่อง PS4 เท่านั้น ติดตามข่าวสารเกมต่างๆ ได้ที่  

ปล่อยของกันออกมาเพียบสำหรับ Final Fantasy 7 Remake ภายในงาน Tokyo Game Show 2019 ที่ผ่านมา ร่วมถึงล่าสุดผู้พัฒนาก็ได้เผยคลิป Demo การต่อสู้ระหว่าง Cloud, Tifa และ Aerith ที่กำลังต่อสู้กับบอสสุดโหดอย่าง Aps ภายในท่อระบายน้ำ Midgar ซึ่งจากภายในคลิปวิดีโอเราจะได้เห็นการสลับตัวเล่นแต่ละตัวละครอย่างลื่นไหล รวมถึงยังได้เห็นการโจมตีต่างๆ ของแต่ละตัวละครพร้อมทั้งการ Summon อสูรอย่าง Ifrit มาช่วยโจมตีอีกด้วย https://www.youtube.com/watch?v=1tjwcrIv3Co&t=235s โดยระบบการต่อสู้ของเกม Final Fantasy 7 Remake จะผสมผสานการโจมตีแบบแอ็คชั่นสมัยใหม่ และระบบ RPG สมัยเก่าที่เวลาจะเลือกใช้สกิลหรือไอเท็มตัวเกมจะหยุดทั้งหมดนั่นเอง โดยเกมมีกำหนดวางจำหน่ายในวันที่ 3 มีนาคม 2020 บนเครื่อง PS4 เท่านั้น ติดตามข่าวสารเกมต่างๆ ได้ที่

ปล่อยออกมาแล้วสำหรับตัวละครจากองค์กรชินระภายในเกม Final Fantasy VII Remake โดยตัวอย่างนี้เราจะได้เห็นตัวละครอย่าง Rude, Tseng และ Reno รวมถึงตัวละครอื่นๆ ที่เราจะได้เห็นบริบทภายในเกมมากขึ้นอย่าง Cid Highwind, Aerith, Tifa, Barret Wallace และอื่นๆ อีกมากมาย รวมถึงยังมีการเปิดเผยเกมเพลย์บางส่วนของตัวละครอื่นๆ อีกด้วย https://www.youtube.com/watch?v=9ZIpdx-3QCc Final Fantasy VII Remake มีกำหนดวางจำหน่ายในวันที่ 3 มีนาคม 2020 เฉพาะเครื่อง PS4 เท่านั้น

อีกหนึ่งเกมที่ใครๆ หลายคนรอคอยมาอย่างยาวนานอย่าง Final Fantasy 7 Remake และงาน Tokyo Game Show ที่จะถึงนี้เราก็น่าจะได้เห็น ได้สัมผัส ทั้ง Gameplay และ Footage ที่มากขึ้น ซึ่งจะทำให้เหล่าแฟนๆ ยิ่งคลั่งกันขึ้นไปอีก ถึงแม้ว่างานจะจัดภายในอาทิตย์นี้แต่เหมือนค้ายเหลี่ยมจะทนไม่ไหวปล่อยภาพออกมายั่วแฟนๆ ก่อน โดยภาพที่ปล่อยออกมานี้เป็นภาพที่ใช้เป็น Key Art ของ Final Fantasy 7 เวอร์ชั่นออริจินอลหรือก็คือ ภาพของ Cloud ยืนมองดูบริษัทชินระ พร้อมสะพายดาบเล่มยักษ์ไว้บนหลังนั้นเอง ส่วนตัวเกมจะวางจำหน่าย วันที่ 3 เดือน 3 ปีหน้า นั้นเองแฟนๆ FF7 ห้ามพลาด https://twitter.com/FFVIIR_CLOUD/status/1170185081526206464 Credit : Gamingbolt ติดตามข่าวสารเกมต่างๆ ได้ที่